svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

เมียรับศพชายนิรนามวิ่งตัดหน้ารถเทรลเลอร์ดับเผยป่วยซึมเศร้า

20 ตุลาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมียและญาติรับศพชายนิรนามวิ่งตัดหน้ารถเทรลเลอร์ เผยเป็นช่างซ่อมที่ชลบุรี ป่วยซึมเศร้าเคยพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งสุดท้ายหายออกจากบ้านหลายวัน และวิ่งตัดหน้ารถจนถูกชนเสียชีวิตที่อุดรธานี

กรณีมีชายนิรนาม อายุประมาณ 40-50 ปี วิ่งตัดหน้ารถบรรทุกเทเลอร์แบบกระชั้นชิด ที่หน้าศาลาพักผู้โดยสาร บ้านไก่เถื่อน ถนนมิตรภาพ (อุดรธานี –หนองคาย) ฝั่งขาเข้าตัวเมืองอุดรธานี ต.หมูม่น รถบรรทุกเบรกลากล้อ แต่ก็ชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ศีรษะมีบาดแผลแตก เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าตั้งใจวิ่งตัดหน้ารถเหมือนฆ่าตัวตาย แต่ตำรวจต้องติดตามหาญาติ เพื่อสอบถามหาสาเหตุคิดสั้น ตามเสนอข่าวไปแล้วนั้น  
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ที่ สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี นางวิยะดา อาลัย อายุ  46 ปี  บ้านเลขที่ 35 หมู่ 1 ต.ค้อใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ได้เดินทางมาพบ ร.ต.อ.สุขอินทร์ ลาจันทร์แก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี แจ้งว่า ชายนิรนามที่วิ่งตัดหน้ารถบรรทุกเทเลอร์เสียชีวิตเย็นวานนี้ คือน้องชาย ชื่อว่านายภราดร ผุภูเขียว อายุ 40 ปี เป็นช่างซ่อมรถที่อู่แห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี แต่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ได้หายออกจากบ้านพักที่ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2564 ภรรยาและญาติได้แจ้งคนหายที่โรงพัก และแจ้งมูลนิธิกระจกเงา และเย็นวันที่ 19 ตุลาคม ตนได้ดูข่าวทางทีวี และมีกำนันมาแจ้งว่าน้องชายถูกรถชนเสียชีวิต ศพอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ตนและภรรยาผู้ตายจึงมาขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด  

เมียรับศพชายนิรนามวิ่งตัดหน้ารถเทรลเลอร์ดับเผยป่วยซึมเศร้า

เมียรับศพชายนิรนามวิ่งตัดหน้ารถเทรลเลอร์ดับเผยป่วยซึมเศร้า


 

ที่ห้องดับจิตแผนกนิติเวช โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี นางจุฑาภรณ์ ผุภูเขียว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/3 หมู่ 4 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ภรรยาผู้ตาย ได้เดินทางมาพร้อมลูกสาว อายุ 8 ขวบ มาเพื่อขอรับศพนายภราดร พร้อมกับเล่าว่า ผู้ตายเป็นช่างซ่อมรถที่อู่แห่งหนึ่ง มีอาการป่วยโรคซึมเศร้า เพราะเครียดมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน แต่ผู้ตายมีนิสัยไม่ค่อยพูด ทำให้ไม่พูดระบายปัญหาให้ตนฟัง แต่เลือกที่จะดื่มเหล้าแทน และดื่มหนักมากถึงกับฟุบหลับคาวงเหล้า ผู้ตายเคยบอกว่าได้ยินเสียงแว่วในหู และเคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว 1 ครั้ง ด้วยการเอามีดปลอกผลไม้ปาดคอ ผ่าท้องตัวเอง แต่ช่วยไว้ทัน และนำตัวไปรักษา แต่ผู้ตายไม่กินยา หรือทำท่ากินแต่ก็บ้วนยาทิ้ง  
ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายมีอาการโรคซึมเศร้ากำเริบ นั่งเหม่อลอย มีอาการสั่นและไม่ลืมตา และเช้าวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ตายหนีออกมาจากบ้านมาขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้าง แล้วตนขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนลูกตามไม่ทัน เพราะฝนตก เมื่อโทรศัพท์ถามผู้ตายก็บอกว่านั่งรถโดยสารกลับบ้านที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ซึ่งตนก็คิดว่าไปรักษาที่บ้านใกล้ญาติพี่น้องก็จะดีกว่า และครั้งสุดท้ายที่ติดต่อได้ ตนโทรหาผู้ตายบอกว่าอยู่ อ.พังโคน จ.สกลนคร จากนั้นก็วางสายติดต่อไม่ได้อีก กระทั่งมีพลเมืองดีได้นำซิมโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย มาใส่มือถือใหม่โทรหาตน เพราะเห็นเบอร์ตนโทรหาผู้ตายหลายสาย จึงรู้ว่าวิ่งให้รถชนเสียชีวิต โดยไม่รู้ว่าผู้ตายมาอยู่ที่ศาลาพักผู้โดยสารที่ อ.เมืองอุดรธานี ได้อย่างไร ซึ่งจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านค้อใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร  

เมียรับศพชายนิรนามวิ่งตัดหน้ารถเทรลเลอร์ดับเผยป่วยซึมเศร้า

เมียรับศพชายนิรนามวิ่งตัดหน้ารถเทรลเลอร์ดับเผยป่วยซึมเศร้า


 

นางบุตสรินทร์ สำลี อายุ 54 ปี น้าภรรยาผู้ตายได้นั่งดูคลิปขณะผู้ตายวิ่งให้รถชนถึงกับสะอื้นร่ำไห้สงสาร พร้อมกับเล่าว่า หลังดูคลิปแล้วรู้สึกสะเทือนใจมาก ถ้าคนปกติคงไม่วิ่งไปให้รถชน แต่เพราะป่วย และชอบหูแว่วมีคนสั่งให้วิ่งออกไปคงจะหลอน และกลัว ตนพบผู้ตายครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมาเป็นวันเกิดของผู้ตาย และได้มาใส่บาตรทำบุญ และนั่งกินข้าวที่ร้านขายอาหารของตน เพราะว่าตนเปิดร้านขายอาหาร และสอบถามว่าทำไมลาออกจากงานเดิม ผู้ตายบอกว่าเบื่อมีปัญหาในที่ทำงาน แต่ก็มีงานรองรับแล้ว ตนก็ชวนผู้ตายไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยกันขับรถไป 2 คัน ซึ่งผู้ตายก็บอกว่าจะถามภรรยาก่อนว่ามีหนี้สินหรือไม่เป็นครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกัน 

โดย - เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์  

 

logoline