การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ โดยวาระสำคัญของกระทรวงมหาดไทยจะมีการเสนอต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายให้กับบมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ BTSC ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อแก้ปัญหาหนี้สะสมที่ กทม.ค้างจ่ายการเดินรถให้ BTS รวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท
ก่อนหน้านี้ บีทีเอสได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายฟ้องต่อกรุงเทพมหานคร และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในการชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยศาลปกครองได้รับคำฟ้องเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา และปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนให้ กทม.และกรุงเทพธนาคมทำคำชี้แจง
สำหรับภาระหนี้สะสมที่ภาครัฐมีต่อบีทีเอส แบ่งออกเป็น หนี้ค่าจ้างเดินรถตั้งแต่เดือน เม.ย. 2560 จนถึงเดือน ก.ค.2564 จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท และหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) จำนวนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
โดยการยื่นคำฟ้องครั้งนี้เป็นเพียงสัญญาจ้างเดินรถ มูลค่าราว 1.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่สัญญาติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนรวบรวมเอกสาร เตรียมยื่นคำฟ้องให้ชำระหนี้อีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งบีทีเอสยอมรับว่าการค้างจ่ายค่าจ้างดังกล่าวที่มีมูลค่ารวมเกือบ 3 หมื่นล้านบาทนั้น ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ทำให้บีทีเอสจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อนำมาบริหารจัดการ
อย่างไรก็ตาม แนวทางการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า 30 ปี ให้กับบีทีเอส จะทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดทั้งสายสูงสุดไม่เกิน 65 บาท ลดลงจากราคาสูงสุด 158 บาท และบีทีเอสจะแบกรับหนี้ทั้งหมดให้กทม.จนถึงปี 2572 ที่จะมีมูลค่าหนี้รวมกว่า 1.4 แสนล้านบาท