สหภาพไทรอัมพ์ บุกทำเนียบเรียกร้องเยียวยาชดเชย
สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ บุกทำเนียบฯ ระหว่าง นายกฯ นำประชุมครม. เรียกร้องเยียวยาชดเชย 242 ล้านบาท ฉะตำรวจพูดให้น้อยหน่อย หากเก่งจริง ให้ลากคอนายจ้างมาให้ได้
19 ตุลาคม 2564 ที่ถนนขาเข้า ถนนพิษณุโลก บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล นางกรรจาย แก้วชู ตัวแทนสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์นชั่นแนลแห่งประเทศไทยตามที่บริษัทบริลเลียนท์ อัลไลแอนซ์ไทย โกลบอล จ.สมุทรปราการ ผู้ผลิตชุดชั้นในยี่ห้อดัง Victoria's Secret / LBI ฯลฯ ส่งออกเอเชีย ยุโรป อเมริกา มี นางสาวมัน ชี แองเจล่า เลา (Angie Lau) และ นางสาวมัน ยิน เอมิลี่ เลา (Emily Lau) ชาวฮ่องกงเป็นเจ้าของได้ปิดกิจการและย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น โดยมีการเลิกจ้างคนงาน 1,388 คน ไม่ได้ชดเชยตามกฎหมายแรงงานเป็นจำนวนเงิน 242 ล้านบาท ทำให้คนงานหญิงและครอบครัวเดือดร้อนสาหัส โดยกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างได้จ่ายเงินสงเคราะห์จำนวน 21 ล้านบาท คิดเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ของสิทธิประโยชน์ทั้งหมดที่ลูกจ้างพึงได้รับตามกฎหมาย
ทั้งนี้เมื่อกระทรวงแรงงานซึ่งมีนายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรีไม่สามารถบังคับให้นายจ้างจ่ายเงินค่าชดเชยได้ กฎหมายแรงงานจึงได้กำหนดให้มีกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเพื่อจ่ายเงินเยียวยาเต็มตามสิทธิกฎหมายแรงงาน และให้กระทรวงแรงงานติดตามดำเนินคดีนายจ้างให้นำเงินมาชดใช้กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างต่อไป แต่ทว่า กระทรวงแรงงานกลับเพิกเฉย ปล่อยปละ ละเลยต่อการคุ้มครองแรงงานและการบังคับใช้กฎหมายแรงงานเป็นเวลากว่า 8 เดือนด้วยกัน ด้วยเหตุนี้คนงานหญิงกว่า 100 คน จึงได้มาร้องเรียนต่อรัฐบาลให้ดำเนินการจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นไปตามสิทธิประโยชน์กฎหมายแรงงานและกำหนดมาตรการเพื่อบังคับใช้กฎหมายแรงงานให้เป็นจริง โดยมีข้อเรียกร้องดังนี้
- ขอให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำเนินการและช่วยนำเงินจำนวน 242,689,862 บาท มาจ่ายค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชย ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี โบนัสและเบี้ยขยันให้กับลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
- ขอให้นายกรัฐมนตรี ดำเนินการและช่วยติดตามนายจ้างมารับผิดชอบนำเงินจำนวนดังกล่าวมารับผิดชอบ เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชนทุกคน
- ขอให้นายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามกฎหมายอาญาอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างให้นายจ้างรายอื่นดำเนินการเช่นนี้กับประชาชนคนไทยอีก
- ขอให้นายกรัฐมนตรี ดำเนินการหามาตรการป้องกันไม่ให้นักลงทุนต่างชาติมาลงทุนแล้วหอบเงินหนีปล่อยลอยแพลูกจ้างเช่นนายจ้างรายนี้
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 สหภาพแรงงานและสมาชิกได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี และ วันที่ 8 ตุลาคม 2564 สหภาพแรงงานได้ประชุมร่วมกันกับ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และได้รับข้อเรียกร้องเพื่อจะทำหนังสือนำเรียนถึงนายกรัฐมนตรี ขณะนี้เวลาผ่านมาหลายวันแล้วสหภาพแรงงานจึงมาทวงถามความคืบหน้าข้อเรียกร้องที่ยื่นต่อนายกรัฐมนตรีว่าได้ดำเนินการหรือไม่อย่างไร และขั้นตอนในขณะนี้ถึงไหนแล้ว และขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ลูกจ้างได้รับเงินค่าชดเชย / ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า / ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี / โบนัส และ เบี้ยขยันเพื่อจะได้บรรเทาความเดือดร้อนของลูกจ้างต่อไป
สำหรับบรรยากาศบริเวณหน้าทำเนียบ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จัดกำลัง รักษาความปลอดภัยจำนวน 1 กองร้อย ก่อนที่ผู้ปราศรัยจะขอให้เจ้าที่ตำรวจพูดให้น้อยหน่อย หากเก่งจริง ให้ไปจับนายจ้างมาให้แรงงาน