13 ตุลาคม 2564 นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แนะนำ 6 ขั้นตอนเบื้องต้น ในการซื้อประกันภัย ที่ผู้เอาประกันภัยควรพิจารณา ข้อมูลและปัจจัยต่างๆ รวมทั้งปฏิบัติตนง่ายๆ ดังนี้
1) พิจารณาความเสี่ยงภัยของตนเอง
ผู้ที่สนใจทำประกันภัยแต่ละราย ควรพิจารณาความเสี่ยงภัยของตนเอง และสำรวจก่อนว่าตนเองได้มี การประกันภัยใด หรือสิทธิหรือสวัสดิการใดอยู่แล้วหรือไม่ ซึ่งความคุ้มครองและสวัสดิการต่าง ๆ ที่ตนเองมีอยู่ ต้องพิจารณาว่าเพียงพอกับความต้องการของตนเองแล้วหรือยัง อาทิเช่น บุคคลที่มีสวัสดิการดูแล ค่ารักษาพยาบาลของรัฐบางราย อาจต้องการการดูแลค่ารักษาเพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิม ในกรณีนี้ ผู้ที่สนใจทำ ประกันภัยก็สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการประกันภัยสุขภาพเพิ่มเติมได้
2) เปรียบเทียบเงื่อนไขการให้ความคุ้มครอง ความคุ้มครอง และข้อยกเว้นความคุ้มครอง
ผลิตภัณฑ์ประกันภัยแต่ละแบบจะมีรูปแบบและกำหนดเงื่อนไข ความคุ้มครอง และข้อยกเว้น ที่แตกต่างกัน อาทิเช่น การประกันภัยสุขภาพบางฉบับ จะมีการกำหนดระยะเวลาไม่คุ้มครอง หลังจากการทำประกันภัย โดยมีการกำหนดจำนวนวันของระยะเวลาที่ไม่คุ้มครองแตกต่างกัน ดังนั้น ผู้ที่สนใจทำประกันภัย ควรเปรียบเทียบความคุ้มครองที่สนใจว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร และการประกันภัยฉบับใด/ประเภทใด ที่ตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุด
3) พิจารณาความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัย และรูปแบบการชำระเบี้ยประกันภัย
ผลิตภัณฑ์ประกันภัยในแต่ละรูปแบบ จะมีค่าเบี้ยประกันภัยแตกต่างกันออกไปตามความคุ้มครองที่ได้ กำหนดไว้ผู้ที่สนใจทำประกันภัยจึงควรพิจารณาความจำเป็นและความต้องการของการทำประกันภัย ร่วมกับ ความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัยของตนเอง ซึ่งการประกันภัยในปัจจุบันมีตั้งแต่หลักสิบบาทไปจนถึง ราคาหลายหมื่นบาทหรือสูงกว่านั้น จึงควรพิจารณาความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัยร่วมกับความ ต้องการของตนเองด้วย เพื่อไม่ให้การประกันภัยเป็นภาระทางการเงินของผู้ที่สนใจในการทำประกันภัยต่อไป ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันการชำระเบี้ยประกันภัยมีรูปแบบในการชำระเบี้ยประกันภัยที่หลากหลาย เช่น การชำระเบี้ยประกันภัยแบบรายปี รายเดือน ราย 3 เดือน หรือราย 6 เดือน เป็นต้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ช่วยให้ผู้เอาประกันภัยมีความยืดหยุ่นในการเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัยมากยิ่งขึ้น รูปแบบและข้อกำหนด ในการชำระเบี้ยประกันภัยจึงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้สนใจทำประกันภัยควรพิจารณาด้วย
4) การแถลงข้อความจริงในการขอเอาประกันภัย
ผู้ที่สนใจทำประกันภัย จะต้องแถลงข้อความจริงประกอบการขอเอาประกันภัย ตามที่ปรากฏในใบคำ ขอเอาประกันภัยของบริษัทประกันภัยนั้น ๆ ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถพิจารณารับประกันภัยได้ตรงกับความ เป็นจริง และเมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น ทำให้ไม่มีข้อโต้แย้งหรือข้อพิพาทในเรื่องข้อเท็จจริงสำหรับการให้ ความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยต่าง ๆ
5) ศึกษาช่องทางการจำหน่าย ช่องทางการให้บริการและการติดต่อของบริษัทประกันภัย
ปัจจุบันช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น ผู้ที่สนใจทำ ประกันภัยสามารถเลือกซื้อประกันภัยได้ตามความสะดวกในการเข้าถึง การประกันภัยของตนเอง และควร เปรียบเทียบและพิจารณาผลิตภัณฑ์ประกันภัย ในแต่ละช่องทางที่อาจมีความแตกต่างกัน เนื่องจากการ ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ของแต่ละกลุ่มคนที่แตกต่างกันด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจทำประกันภัยควรสำรวจ และพิจารณาช่องทางในการให้บริการของบริษัทประกันภัยแต่ละราย เพื่อความสะดวกในการติดต่อธุรกรรม ต่าง ๆ ในภายหลังจากการทำประกันภัยด้วย
6) หาข้อมูลเกี่ยวกับการบริการหลังการขายและข้อมูลความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัย
บริษัทประกันภัยแต่ละแห่งมีการให้บริการหลังการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่แตกต่างกัน ผู้ที่สนใจเอาประกันภัยควรเปรียบเทียบและหาข้อมูลในการดูแลลูกค้าและการให้บริการหลังการขายของ บริษัทประกันภัยแต่ละรายด้วย และควรศึกษาข้อมูลความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยที่ท่านสนใจ โดยสามารถศึกษาข้อมูลดังกล่าวได้จากหลายช่องทาง รวมไปถึงเว็บไซต์ของบริษัทที่สนใจทำประกันภัย และเว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ. สำหรับบริษัทประกัน ชีวิต และ สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ประชาชนผู้ที่สนใจทำประกันภัยมีแหล่งข้อมูลในการพิจารณาตัดสินใจเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยและมีระบบการสืบค้นที่มีประสิทธิภาพ สำนักงาน คปภ. จึงได้ออกประกาศ เรื่อง การเปิดเผย ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยที่เสนอขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับบริษัทประกันชีวิต/บริษัทประกัน วินาศภัย พ.ศ. 2563 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563 เพื่อให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยที่เสนอ ขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงในระบบเว็บไซต์ของ สำนักงาน คปภ. ตามรูปแบบและวิธีการที่กำหนดไว้ในประกาศให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับ
โดยการดำเนินงานตามประกาศฉบับดังกล่าว จะช่วยให้ประชาชนมีแหล่งสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย และสามารถเปรียบเทียบข้อมูลของแบบการประกันชีวิต การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล และการประกันภัย อุบัติเหตุการเดินทาง อาทิเช่น เงื่อนไขความคุ้มครอง การจ่ายเงินผลประโยชน์ อัตราเบี้ยประกันภัย ข้อยกเว้น เงื่อนไขที่สำคัญของกรมธรรม์ประกันภัย และเงื่อนไขการรับประกันภัยของแต่ละบริษัท เป็นต้น
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาในการตัดสินใจทำประกันภัยของผู้ที่สนใจทำประกันภัย กรณีมีการเสนอขายผ่าน ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย