การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 หรือ ศบค. ในวันที่ 14 ตุลาคม ที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. จะเป็นประธานการประชุม นอกจากการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 หลัง 14 วันที่มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆแล้ว จะพิจารณาปรับระดับสีพื้นที่ คือ สีแดงเข้ม เหลือ 24 จังหวัด สีแดง เหลือ 29 จังหวัด และ สีส้มเหลือ 24 จังหวัด
ขณะที่การลดเวลาออกนอกเคหะสถาน หรือ เคอร์ฟิว จากเดิมเวลา 22 นาฬิกาถึง เวลา 4 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น ปรับเป็นเวลา 23 นาฬิกา ถึงเวลา 3 นาฬิกา มีผลบังคับใช้วันที่ 16 ตุลาคมนี้
นอกจากนี้ จะพิจารณาผ่อนคลายกิจกรรม กิจการเพิ่มเติม โดยพื้นที่สีแดงเข้มจัดการประชุม รวมถึงงานประเพณี ในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือ สถานที่จัดนิทรรศการ สถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้า โรงแรมได้ รวมไปถึงให้เปิดสถานดูแลผู้สูงอายุแบบไป-กลับได้ แต่ต้องได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือ กทม.
และยังจะมีการเสนอ ปรับจำนวนการรวมกลุ่มตามลำดับพื้นที่สีจากสีแดงเข้ม-เขียว 50, 100, 200, 300, และ 500 คน ขณะเดียวกันกิจการก็กำหนดให้กิจกรรม ที่ได้รับอนุญาติ ให้เปิดดำเนินการได้ ภายในเวลาไม่เกิน 22.00 น.
ที่ประชุมจะพิจารณาแนวทางการเปิดประเทศ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ 10 ประเทศ แบบไม่ต้องกักตัว โดยจะพิจารณาจากปัจจัยจำนวนผู้ติดเชื้อของแต่ละประเทศ
ด้านกระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอ ที่ประชุม พิจารณาสูตรวัคซีนไขว้ แอสตร้าเซนเนก้า ตามด้วยไฟเซอร์ และในการประชุม ศบค. นายกรัฐมนตรี จะได้เน้นย้ำ ถึงการเตรียมการในด้านต่างๆ ก่อนที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ รวมถึงการเตรียมความพร้อม ก่อนที่จะให้เปิดสถานบันเทิงวันที่ 1 ธันวาคม