วันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 20.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงผ่าน ทรท. ถึงความสำเร็จในการควบคุมสถานกาณณ์โควิด-19 ในประเทศไทย และแผนการเปิดประเทศ เนื้อหาสรุปว่า ระบุว่า หนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยพบความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นวิกฤตไม่มีในประเทศและในโลกนี้ไม่ได้รับผลกระทบ และทำให้ตนต้องตัดสินใจเลือก ระหว่างปกป้องชีวิตคนกับปกป้องการทํามาหากิน ซึ่งตนตัดสินใจอย่างรวดเร็วคือ จะไม่ยอมโควิด-19 พรากชีวิตของพี่น้องคนไทยเหมือนที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ผ่านการใช้มาตรการที่เข้มงวดต่างๆ
จนวันนี้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสําเร็จมากที่สุดในโลกในการปกป้องรักษาชีวิตของประชาชน แต่ก็ต้องแลกความยากลําบากในการทํามาหากิน สูญเสียรายได้ สูญเสียเงินเก็บ ธุรกิจพัง
วันนี้สถานการณ์โควิดในประเทศไทยค่อยๆ ดีขึ้น ตนจึงอยากประกาศหนึ่งก้าวเล็กๆ แต่เป็นก้าวที่สําคัญ คือ เส้นทางที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับมาทํามาหาเลี้ยงตัวเองกันได้อีกครั้ง
โดยในช่วงหนึ่งถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศที่เป็นนักท่องเที่ยวสําคัญของประเทศไทย ต่างค่อยๆ เริ่มอนุญาตให้ประชาชนของตนเดินทางได้โดยไม่มีเงื่อนไขที่ยุ่งยากมากมาย และเพื่อไม่ให้เสียโอกาสที่จะดึงนักท่องเที่ยวมาในช่วงเทศกาลเดินทางท่องเที่ยววันหยุดสิ้นปีใน 3 เดือนข้างหน้านี้ และเพื่อสนับสนุนส่งเสริมการทํามาหากินของประชาชนนับล้านๆ คน ในภาคการท่องเที่ยว การเดินทาง และภาคธุรกิจอื่น อีกมากมายที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ สั่งเปิดประเทศ 1 พ.ย. 10 ชาติไม่ต้องกักตัว
ตนจึงได้สั่งการให้ ศบค. และ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมพิจารณา โดยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป ประเทศไทยจะเริ่มเปิดรับการเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว สําหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และเดินทางเข้าประเทศไทยโดยทางอากาศ จากประเทศที่เป็นประเทศความเสี่ยงตํ่า 10 ประเทศ
เพียงเมื่อเดินทางเข้าประเทศไทย แค่มีหลักฐานผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งทําการตรวจก่อนเดินทางออกจากประเทศต้นทาง และจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย หลังจากนั้น จึงสามารถเดินทางไปพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างอิสระ และตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. จะค่อยๆ ประเทศที่เดินทางมาแล้วไม่ต้องกักตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้ที่มาจากประเทศที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อประเทศความเสี่ยงตํ่า ประเทศไทยก็ยังให้การต้อนรับ แต่ต้องมีการกักตัวตามเงื่อนไขและข้อกําหนด
เตรียมไฟเขียวดื่มสุราในร้านอาหารเปิดสถานบันเทิง 1 ธ.ค.
พร้อมกันนี้ ภายในวันที่ 1 ธ.ค. เราจะพิจารณาอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ในร้านอาหารได้ และจะพิจารณาอนุญาตให้สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และสถานบันเทิง เปิดให้บริการได้ ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว การพักผ่อนและบันเทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เรากําลังจะเข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสปีใหม่
ตนขอชื่นชมเจ้าหน้าที่และบุคลากรสาธารณสุข รวมถึงคนไทยทุกคน ที่ทำให้เราสามารถประสบความสำเร็จตามเป้า 120 วัน ได้มีความพยายามอย่างเต็มที่ ทําทุกวิถีทางเพื่อจัดหาวัคซีนมาให้ได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้การรับส่งมอบวัคซีนของประเทศไทย เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ถึง 3 เท่าในทันที วันนี้เราจะได้รับส่งมอบวัคซีนเข้าประเทศไทยถึงมากกว่า 20 ล้านโดสต่อเดือน ไปจนถึงสิ้นปี รวมเป็นวัคซีนจํานวนมากกว่า 170 ล้านโดส เกินเป้าหมายที่เราตั้งไว้เป็นอย่างมาก
จนทำให้การจํานวนการฉีดวัคซีนต่อวันของประเทศไทย เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า จนประเทศไทย ติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุดในโลก ปัจจุบัน เฉลี่ยแล้ว เราฉีดวัคซีนได้มากกว่า 700,000 โดสต่อวัน และในบางวัน เราฉีดวัคซีนได้มาก เกินกว่า 1 ล้านโดส การที่เราทําแบบนี้ได้ แสดงให้เห็นถึงความสําเร็จ ของการที่คนไทยร่วมมือกัน ทํางานด้วยความมุ่งมั่น และเป็นหนึ่งเดียว ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงความร่วมมือกันของประชาชนคนไทยทุกคน