กกร.ห่วง ’น้ำมัน-ค่าเงิน’ ดันต้นทุนสินค้าพุ่ง!

11 ตุลาคม 2564 ประธานกรรมการหอการค้าไทย สนั่น อังอุบลกุล ระบุ ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มีความเป็นห่วงปัจจัยลบที่กระทบต่อภาคเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าในอนาคตปรับขึ้นแน่นอน ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า โดยกระทบต่อต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบ รวมถึงสินค้าพลังงานท่ีต้องนำเข้า ซึ่งจะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าผู้ส่งออกจะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า แต่ก็มีผลกระทบอีกด้านตามมาเช่นกัน 

“ปัจจัยลบขณะนี้ คือสถานการณ์น้ำท่วม ที่คาดว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหายไป 1.5 หมื่นล้านบาท หรือจีดีพีลดลง 0.1% ปัญหาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิต การขนส่ง มีผลกระทบต่อราคาสินค้าในอนาคต รวมถึงการอ่อนค่าของเงินบาทแม้จะดีกับผู้ส่งออก แต่ผู้นำเข้าถูกกระทบทำให้ต้นทุนนำสินค้าเข้ามาสูงขึ้น ถือเป็นความท้าทายจากนี้ ที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกจะถีบตัวสูงขึ้นตาม เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว”

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ ยังได้รับผลดีจากผู้ติดเชื้อโควิดลดลง การจัดสรรวัคซีนชัดเจน ทำให้มีปัจจัยบวกช่วยเสริมภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น โดยมาตรการที่รัฐออกมาทั้งคนละครึ่งเฟส 3 เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ขยาย 2 ล้านสิทธิ์ ถือว่าดี แต่รัฐควรเสริมมาตรการช้อปดีมีคืน ซึ่งได้คุยกับภาครัฐแล้วและต้องเร่งให้รัฐรีบนำมาใช้ และเติมเงินคนละครึ่งจาก 3 พันบาท เป็น 6 พันบาท ซึ่งภาคเอกชนจะเข้าหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี ครั้งต่อไปจะนำประเด็นเหล่านี้นำเสนอ ส่วนจีดีพีปีนี้คงไม่ติดลบ คาดว่าจะเห็นจีดีพีเติบโตที่ 0-1.0% จ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ ยังได้รับผลดีจากผู้ติดเชื้อโควิดลดลง การจัดสรรวัคซีนชัดเจน ทำให้มีปัจจัยบวกช่วยเสริมภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น โดยมาตรการที่รัฐออกมาทั้งคนละครึ่งเฟส 3 เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ขยาย 2 ล้านสิทธิ์ ถือว่าดี แต่รัฐควรเสริมมาตรการช้อปดีมีคืน ซึ่งได้คุยกับภาครัฐแล้วและต้องเร่งให้รัฐรีบนำมาใช้ และเติมเงินคนละครึ่งจาก 3 พันบาท เป็น 6 พันบาท ซึ่งภาคเอกชนจะเข้าหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี ครั้งต่อไปจะนำประเด็นเหล่านี้นำเสนอ ส่วนจีดีพีปีนี้คงไม่ติดลบ คาดว่าจะเห็นจีดีพีเติบโตที่ 0-1.0% จ