8 ตุลาคม 2564 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติสรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศดังนี้
กอนช. ประกาศเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม และน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ช่วงระหว่างวันที่ 6 –10 ต.ค.64 ดังนี้
เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% ของความจุ เสี่ยงน้ำล้นทางระบายน้ำล้น อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณท้ายน้ำ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำตะเพิน อ่างเก็บน้ำพุตะเคียน จ.กาญจนบุรี อ่างเก็บน้ำห้วยมะหาด จ.ราชบุรี อ่างเก็บน้ำห้วยไทรงาม จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ่างเก็บน้ำคลองหยา และอ่างเก็บน้ำคลองแห้ง จ.กระบี่
จากการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่ามีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ในช่วงวันที่ 7-11 ต.ค.64 รวมทั้งพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 10 - 11 ต.ค.64
ส่งผลให้แม่น้ำมูลมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 0.50-1.0 เมตร และตามที่ กอนช.คาดการณ์ว่ามวลน้ำสูงสุดจะไหลผ่านจังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงวันที่ 16 - 20 ต.ค.64 โดยมีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่งบริเวณริมแม่น้ำมูล ในเขต อ.เขื่องใน อ.เมือง อ.ดอนมดแดง อ.ม่วงสามสิบ อ.วารินชำราบ และ อ.สว่างวีระวงศ์
ทั้งนี้กรมชลประทานได้เตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำมูลโดยตั้งศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) เพื่อเป็นศูนย์บัญชาการ ประสานการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ แก้ไขและบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเฝ้าระวัง ติดตาม ประเมินและวิเคราะห์แนวโน้มของสถานการณ์อย่างทันท่วงที