
7 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าว รายงานว่าจากกรณีที่มีเพจดังแชร์โพสต์ของสาวคนหนึ่งในจังหวัดหนองบัวลำภู ระบายความรู้สึกอัดอั้นตันใจผ่านเพจเฟซบุ๊ก พร้อมภาพถ่ายเปิดเผยความรุนแรงจากคนในครอบครัวที่ทุบทำลายข้าวของในบ้านหลายครั้ง ทั้งยังบอกว่า ในบ้านหลังดังกล่าวมียายอายุ 90 ปี และผู้ป่วยโรคไตที่รอฟอกภายในบ้านด้วย หลังจากนั้นได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ต่อไปในโลกออนไลน์นั้น
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามติดตามหาบุคคลในโพสต์เพื่อถามข้อเท็จจริงและพบว่าคนโพสต์ใช้นามว่า ปอเปี๊ยะ ชื่อจริงคือนางสาว อารียา ผัดอ้อย อายุ 20 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 2 บ้านนาเลิง ตำบลโนนขมิ้น อำเภอเมืองจังหวัดหนองบัวลำภู จึงเดินทางไปที่บ้านดังกล่าว และได้พบนางน้อย ศรีมันตะ อายุ 90 ปี เจ้าของบ้านมีอาการป่วยด้วยโรคความดัน นางมยุรี ศรีมันตะ ผุ้ป่วยโรคใตที่เตรียมการรอฟอกใต นาง สมคิด ศรีมันตะ โดยนางมยุรี กับนางสมคิดต่างก็เป็นลูกสาวของนางน้อย ยายวัย 90 ปี และนางสาวอารยา หรือ ปอเปี๊ยะ ผัดอ้อย หลานสาวของยายน้อย เกิดจากลูกสาวอีกคนของนางน้อยที่ทำงานอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าวพบกับ นางสมคิด ศรีมันตะ ซึ่งเป็นแม่ของผู้ทีก่อเหตุทุบทำลายสิ่งของภายในบ้าน ยอมรับว่า คนก่อนเหตุเป็นบุตรคนที่3ของตน ชื่อนายอธิชาติ มีเสือ อายุ22 ปี ไม่มีอาชีพ การงานมีพฤติการก้าวร้าวและเสพสารเสพติด ขณะนี้ไม่อยู่ที่บ้านได้ออกไปที่ทุ่งนาแล้ว ปกติตัวเองและลูกชายทำงานอยู่ที่ จังหวัดสมุทรปราการ แต่เนื่องจากลูกชายติดโรคโควิด 19 จึงต้องเข้ารักษาตัวเมื่อหายแล้วจึงกลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ 3 เดือน สาเหตุที่ทุบทำลายสิ่งของในบ้านเพราะลูกชายโกรธตนที่ขอเงินไม่ได้จึงอาละวาด พร้อมพยายามสอบถามว่า ใครคือคนที่แจ้งเรื่องนี้ ขณะนั้น นางสาวอารยาหรือปอเปี๊ยะ ได้เข้ามาแสดงตัวพร้อมเปิดเผยว่าตนเป็นผู้โพสต์ข้อความ พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าไม่ใช่เพิ่งเกิดเหตุแบบนี้แต่เกิดมาหลายครั้งเป็นปีแล้ว จึงมีการโต้เถียงกันกับ นางสมคิด แม่ของนายอธิชาติว่า จะเป็นปีได้ไงตนกับลูกเพิ่งกลับมาอยู่บ้านได้ 3 เดือนเอง
ส่วน นางสาวอารยา บอกว่า นายอธิชาติซึ่งเป็นลูกผู้พี่ของตน เพิ่งไปอยู่กับแม่ที่ อ้อมน้อยได้ 3 เดือนเองก่อนจะกลับมาอยู่ที่บ้านก่อนหน้านั้นก็อาละวาดทุบทำลายสิ่งของในบ้านเป็นประจำ นางสมคิดจึงบอกว่าเรื่องในบ้านไม่ควรพูดให้คนอื่นรู้ พร้อมกับบอกว่าหากมีอะไรไม่พอใจให้พูดออกมาเลย นางสาวอารยาจึงบอกว่าตนไม่พอใจเพราะล่าสุดเมื่อวานนายอธิชาติอาละวาดและถือมีดวิ่งเข้ามาใส่ตน นางสมคิดจึงบอกว่าหากเป็นเช่นนี้ตนก็จะพานายอธิชาติกลับไปแล้วจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก ทำให้ยายน้อยที่ฟังป้าหลานเถียงกันได้พูดออกมาว่า อยากให้พูดจากันดีๆหากทุกคนเอาแต่ใจตัวเองก็จะมีปัญหา พูดไปพูดมาเดี๋ยวแม่ก็จะตายก่อน ทุกคนจึงหยุดพูด ต่อมานางสาว อารยา ได้ไปชี้สิ่งของที่ถูกทุบทำลายได้แก่เครื่องใช้ต่างๆเช่นเตาแก้ส กระทะไฟฟ้า ครกเป็นต้น
นางสาวอารยาเล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้นายอธิชาตอยากได้เงิน ยายน้อยไม่มีเงินจึงไปยืมเงินมาให้ 40 บาท นายอธิชาติไม่พอใจจึงโวยวายตนทนไม่ไหวจึงลงมาบอกว่าหากไม่เอา40 บาทให้เอามานี่นายอธิชาติโกรธจึงคว้ามีดจะวิ่งใส่ตน พอดี นางสมคิดมา จึงได้ทะเลาะกับแม่และอาละวาดทำลายสิ่งของในบ้านอีก หลังจากนั้น ตนทนไม่ไหวจึงไปหา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย จนฝ่ายปกครองแจ้งตำรวจมาระงับเหตุและนำตัว นายอธิชาติ ไปที่โรงพยาบาล แต่เมื่อตรวจหาสารเสพติดแล้วแจ้งว่าไม่พบสารเสพติดจึงปล่อยกลับมา ทำให้ตัวเองอัดอั้นไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเกิดขึ้นบ่อยมาก เมื่อก่อนตนไม่สนใจเพิ่งมีเมื่อวานที่ตนทนไม่ไหวจึงไปแจ้งฝ่ายปกครองให้แจ้งตำรวจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ต่อไปจะเป็นอย่างไร ที่โพสต์ไปก็อยากให้มีใครสักคนเข้ามาช่วยแก้ไข ไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก นางสาวอารยากล่าวทั้งน้ำตา
นอกจากนั้น นางสมคิดแม่ของนายอธิชาติ ยังเล่าว่า นายอธิชาติเคยมีภรรยาคนบ้านเดียวกันแต่อยู่กันได้แค่ 2 เดือนก็เลิกกันเนื่องจากลูกชายไม่ทำงานและก่อเรื่องทำร้ายทุบตีภรรยาจนต้องเลิกกัน แต่อย่างไรก็ตามหากมีการแจ้งความดำเนินคดีตนก็จะช่วยเหลือลูกชายจนถึงที่สุด ซึ่งหลังจากนี้ ตนเองก็คิดว่าจะนำพาลูกชายกลับไปทำงานด้วยเหมือนเดิม ที่โรงงานเขาก็ไม่ได้อาละวาดเพราะยังเกรงกลัวต่อกฎระเบียบของสถานที่ ทำงาน
โดย - สุรศักดิ์ เครือคำ