จากผลกระทบพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทับเสลา ตำบลระบำ อำเภอลานสัก เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดวันที่ 7 ตุลาคม 2564 มีปริมาณมีน้ำเกินระดับกักเก็บ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีน้ำ 160.99 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 100.62 จึงทำให้ปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์ หรือทางระบายน้ำล้น ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว ตำบลทองหลาง อำเภอห้วยคต วันนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บ 48.93 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 94.09 ของความจุอ่าง 52 ล้านลูกบาศก์เมตร
ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยามีการคาดการณ์ว่า ระหว่างนี้ถึงวันที่ 9 ตุลาคม 64 นี้ ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย จะเริ่มมีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
จากสภาวะดังกล่าวทำให้อ่างเก็บน้ำทับเสลามีน้ำล้นอ่าง และอ่างเก็บน้ำมีปริมาณใกล้เต็มอ่าง ซึ่งระดับน้ำของอ่างทั้ง 2 แห่ง เกินกว่าเกณฑ์ควบคุมน้ำสูงสุด ทางโครงการชลประทานอุทัยธานี มีความจำเป็นและได้สั่งให้มีการระบายน้ำของอ่างทั้ง 2 แห่ง ผ่านอาคารระบายน้ำลงลำน้ำเดิม (River Outlet) โดยอ่างเก็บน้ำทับเสลาระบายอยู่ที่ 2.22 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินา ล้นสปิลเวย์ 0.39 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้วระบายน้ำอยู่ที่ 0.21 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที
ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของอ่างเก็บน้ำ และเพื่อให้อ่างเก็บน้ำมีปริมาตรน้ำที่ว่างรองรับน้ำฝนที่จะตกลงมาข้างหน้า และอยู่ในเกณฑ์บริหารจัดการอ่างเก็บน้ำ และไม่ให้มีระดับน้ำสูงเกินกว่าระดับควบคุมสูงสุดเพื่อลดความเสี่ยง โดยจะให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายอ่างให้น้อยที่สุด และหากไม่มีฝนตกลงมาอีก ทางโครงการชลประทานจะพิจารณาปรับลดการระบายน้ำทันที ซึ่งขอให้ประชาชนเฝ้าติดตามคำประกาศแจ้งเตือนจากโครงการชลประทานอุทัยธานีอย่างใกล้ชิดต่อไป
ข่าว/ภาพ-สามสอ จันทรังษ์