6 ตุลาคม 2524 วันลอบสังหาร "อันวาร์ ซาดัต"
หลังจากที่พยายามสร้างสันติภาพกับอิสราเอล คู่ปรับของทั้งโลกอาหรับที่ทำสงครามกันมาหลายครั้ง จนได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพ แต่สุดท้ายแล้วผู้นำอียิปต์ก็เสียชีวิตเพราะสันติภาพ
6 ตุลาคม 2524 ประธานาธิบดีอันวาร์ ซาดัต ของอียิปต์ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 62 ปี หลังจากที่ถูกการลอบสังหารในวันเดียวกันโดยสมาชิกกลุ่มอิสลามิกญีฮัดอียิปต์ ระหว่างงานสวนสนามประจำปีฉลองชัยชนะในปฏิบัติการ "บาดร์" เมื่อกองทัพอียิปต์ข้ามคลองสุเอซ และยึดคืนพื้นที่ส่วนเล็กๆ ในคาบสมุทรไซนายคืนจากอิสราเอลในช่วงเริ่มต้นของสงครามยมคิปปูร์ปี 2516
มูลเหตุการลอบสังหารมาจากการที่ หลังจากการทำข้อตกลงแคมป์เดวิด ปี 2521 ในปีนั้น ซาดัตและนายกรัฐมนตรีเมนาเฮม เบกิน ของอิสราเอลก็ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพร่วมกันในปีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สนธิสัญญาสันติภาพอียิปต์ – อิสราเอลในปี 2522 ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากข้อตกลงแคมป์เดวิด นำมาสู่การโต้แย้งในหมู่ชาติอาหรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวปาเลสไตน์ ถึงขั้นที่สมาชิกภาพของอียิปต์ในสันนิบาตอาหรับถูกระงับ ในอียิปต์เอง กลุ่มญิฮาดต่าง ๆ เช่น อิสลามญิฮัด และ อัล-จามา อัล-อิสลามิยา ก็ใช้เรื่องข้อตกลงแคมป์เดวิดเพื่อระดมเสียงสนับสนุนแนวคิดของพวกเขา โดยคนเหล่านี้รู้สึกว่าพวกเขาถูกทรยศ และก็ได้ออกมาเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้มีการโค่นล้มตำแหน่งประธานาธิบดี และแทนที่ระบบการปกครองตามระบอบศาสนาอิสลาม
ในช่วงเดือนสุดท้ายของการอยู่ในอำนาจ อียิปต์เต็มไปด้ยบรรยากาศของการจลาจลภายใน แต่ซาดัตไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาภายใน เขามองว่าเป็นการแทรกแซงของสหภาพโซเวียตที่หวังเขี่ยเขาออกจากอำนาจ และหลังเหตุการณ์รัฐประหารที่ล้มเหลวกลางปี 2524 เขาก็สั่งปราบปรามอย่างหนัก
ในวันที่ถูกลอบสังหาร ซาดัตได้รับการคุ้มครองโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถึง 4 ชั้น และบอดี้การ์ด 8 คน ส่วนขบวนสวนสนามก็น่าจะปลอดภัยเนื่องจากไม่มีการติดกระสุน แต่ในขณะที่เครื่องบินมิราจของกองทัพอากาศอียิปต์บินเหนือศีรษะ และฝูงชนหันไปให้ความสนใจกับมัน ในช่วงนั้น รถบรรทุกคันหนึ่งในขบวนสวนสนาม ที่ทีมสังหารนำโดย ร้อยโทคาลิด อิสลามบูลี แฝงตัวมา แล่นผ่านปะรำพิธีพอดี เขาได้บังคับให้โชเฟอร์หยุดรถ จากที่นั่น ทีมสังหารก็พากันลงจากรถ และวิ่งเข้าหาประธานาธิบดี
ซาดัตลุกขึ้นหวังรับการแสดงความเคารพจากทหารที่วิ่งมาหา เพราะคิดว่าเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของพิธีการ แต่ปรากฏว่าอิสลามบูลีก็ขว้างระเบิดมือทั้ง 3 ลูกใส่ซาดัต แต่มีเพียงลูกเดียวเท่านั้นที่ระเบิด แต่ก็ระเบิดห่างไป ขณะที่ทีมสังหารคนอื่น ๆ ก็กราดยิงเข้าไปในปะรำพิธีจนกระสุนจนหมด แล้วจึงพยายามหลบหนี
ขณะที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยก็ยิงตอบโต้ประมาณ 45 วินาทีหลังจากที่เกิดเหตุ
การโจมตีกินเวลาประมาณ 2 นาที งานนี้ทำให้ซาดัตและคนอื่น ๆ อีก 10 คนเสียชีวิต มีผู้บาดเจ็บ 28 คน รวมทั้งรองประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค หนึ่งในคนร้ายก็เสียชีวิต และอีกสามคนบาดเจ็บและถูกจับกุม ในส่วนของผู้ก่อเหตุ ต่อมาถูกตัดสินประหารชีวิตรวม 5 คน
