เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เชียงใหม่เปรียบเสมือนเมืองหลวงของภาคเหนือ การบริหารจัดการต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาจังหวัดให้เดินหน้าไปได้อย่างยั่งยืน จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดใหญ่มีทั้งสิ้น 25 อำเภอ เป็นเมืองท่องเที่ยว ต้องมีการวางแผนแนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและเป็นระบบ
การทำงานบริหารจัดการจะใช้ระบบติดตามงานให้แล้วเสร็จแบบวันต่อวัน หากมีความซับซ้อนในการบริหารจัดการจะดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด โดยมีแนวทางการบริหารจัดการตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นำมาบริหารจัดการ โดยจะทำการต่อยอดจากผู้ว่าราชการจังหวัดท่านเดิมที่ดำเนินการไว้ และพร้อมที่จะส่งมอบงานต่อให้กับท่านต่อไปมาบริหารจัดการ โดยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่ของประชากรในพื้นที่
และที่สำคัญคือเรื่องสาธารณภัยในพื้นที่ จะมีการสร้างเครือข่ายให้ครอบคลุมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีการจัดตั้งทีมกู้ภัยประจำไว้ทุกหมู่บ้าน เพื่อทำหน้าที่อาสาแจ้งเตือนภัยให้กับชาวบ้านในพื้นที่ก่อนที่ภัยจะมาถึง โดยจะไม่ทำการงานแบบเกิดเหตุแล้วจึงเข้าช่วยเหลือเยียวยา แต่จะต้องทำงานในลักษณะป้องกันเหตุ เพื่อให้เกิดความสูญเสียให้น้อยที่สุด
นอกจากนั้นยังจะดำเนินการแก้ไขเรื่องหมอกควันไฟป่า ต้องมีการวางแผนร่วมกับ หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ รวมทั้งต้องทำงานร่วมกับองค์กรอิสระ และภาคเอกชน ต้องมีการประชุมร่วมกันเพื่อต่อยอดแนวคิดแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง โดยจะทำการ Kick Off พร้อมกันทุกอำเภอ
สำหรับการบริการจัดการกับไวรัสโควิด-19 เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดใหญ่ และเป็นเมืองท่องเที่ยว การบริหารจัดการด้านสาธารณสุขต้องครอบคลุมทั้งประชาชนในพื้นที่ และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจังหวัดเชียงใหม่ มีการบริหารจัดการด้านสาธารณสุขได้เป็นอย่างดี มีมาตรฐาน เป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นนำไปปรับใช้ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกันในเรื่องของคลองแม่ข่า ที่ผ่านมาเมื่อเกิดฝนตกหนักมักเกิดน้ำท่วมตลอดเวลา ดังนั้นต้องมีการพัฒนาคลองแม่ข่าระยะทางประมาณ 32 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้ได้ทำการศึกษาข้อมูลการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า เพื่อฟื้นฟูให้มีสภาพที่สวยงาม การบริหารจัดการแบ่งการทำงานเป็นส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และ ส่วนท้องถิ่น อย่างไรก็ตามในเรื่องขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นแกนหลักในการดำเนินการเต็มพื้นที่ คอยช่วยสนับสนุนงานของท้องถิ่นในพื้นที่ ซึ่งอยู่ในการกำกับของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
เชียงใหมม่เป็นเมืองที่มีความสวยงาม แม้ว่าในการท่องเที่ยวค่อนข้างเงียบเหงาเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งขณะนี้กำลังมีการวางแผนเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวได้พื้นที่ โดยใช้ชื่อว่า “Charming Chiang Mai” โดยจะเปิดการท่องเที่ยวในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งเป็นความท้าทายในการเปิดเมืองอย่างปลอดภัย โดยจะไม่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งต้องมีการประชุมชนร่วมกับภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหลังว่าเชียงใหม่จะกลับมาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกครั้ง
ทั้งนี้ ต้องพยายามฉีดวัคซีนให้ครอบคุลมประชาชนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด โดยต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เข้ารับการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด พร้อมกันนั้นในแต่ละพื้นที่ต้องมีความเข้มแข็งในการสอดส่องดูแลคนต่างถิ่นที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ต้องได้รับการกักตัว เพื่อความปลอดภัยของพื้นที่ โดยมีความคาดหวังที่จะทำเชียงใหม่ให้เป็นสีฟ้า โดยทำให้แต่ละหมู่บ้านกลายเป็นสีฟ้ามีความเข้มแข็งในการบริหารจัดการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างเด็ดขาด สามารถควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว ไม่เกิดการแพร่กระจาย หลังจากที่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สีแดง ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19