
4 ตุลามคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจของอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ได้โพสต์ภาพลูกนกเงือกหัวหงอก 2 ตัว ระบุว่า ...
"อช.บูโดฯ อช.บูโด ฯ ต้อนรับลูกนกเงือกหัวหงอกสัตว์ป่าคุ้มครอง สู่โลกกว้างอย่างปลอดภัย พร้อมภาพครอบครัว ดูแลตรวจเพื่อความปลอดภัย"
โดยคลิปลูกนกเงือกหัวหงอก 2 ตัว ได้ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กเพจของอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี จ.นราธิวาส หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมและดูแลความปลอดภัยมาตั้งแต่พบโพรงรัง ซึ่งล่าสุด ลูกนกเงือกหัวหงอกได้ออกมาจากโพรงแล้วเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 เวลา 08.59 น. นี่ถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่ายินดีในวงการงานด้านอนุรักษ์
โดยก่อนหน้านี้ อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ได้โพสต์อัปเดตความน่ารักของครอบครัวนกเงือกหัวหงอกมาโดยตลอด
8 ส.ค.2564 ระบุว่า วันนี้ชุดลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ขอนำทุกท่านมาเที่ยวทิพย์...พร้อมแล้วมากันเลย มาส่องนกป้อนอาหารกัน....จากเฝ้าสังเกตและติดตามพฤติกรรมของพ่อนกตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-16.00.น. พ่อนกได้บินเข้าออกไม่ต่ำกว่าชั่วโมงละ 3 ครั้ง พร้อมอาหารมาป้อนให้กับลูกและแม่นกที่อยู่ในโพรง โดยมีญาติมาช่วยด้วย แสดงถึงความมีน้ำใจของพวกมัน
16 ส.ค.2564 ระบุว่า หลังจากทีมลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ได้พบโพรงนกเงือกหัวหงอก วันนี้ชุดลาดตระเวนได้เข้าไปสังเกตุการณ์ พร้อมตรวจสอบและเก็บภาพจากกล้องดักถ่ายที่ได้ติดตั้งไว้ เพื่อป้องกันการถูกพรานล้วงโพรง เพื่อเอาลูกนก ปรากฏลูกนก แม่นก และ พ่อนก ยังปลอดภัยและในบริเวณโพรง
23 ส.ค.2564 ระบุว่า วันนี้ชุดลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ได้เข้าสังเกตการณ์และเก็บภาพจากกล้องดักถ่าย ที่ได้ติดตั้งบริเวณโพรง เพื่อสังเกตุพฤติกรรมและป้องกันมิให้กลุ่มล่าลูกนก มาล้วงลูกนกไปจากโพรง วันนี้ครบ 1 เดือน นับจากวันที่พบโพรง ทุกชีวิตยังปลอดภัย
23 ก.ย.2564 ระบุว่า มาอัปเดตความน่ารักกับครอบครัวของนกเงือกหัวหงอก โดยอุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดี
ทั้งนี้ "นกเงือกหัวหงอก" จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 ซึ่งสถานะภาพของนกเงือกหัวหงอกอยู่ในสถานะภาพใกล้สูญพันธุ์
โดยถิ่นที่อยู่อาศัยของนกเงือกหัวหงอก พบได้ในทวีปเอเชียแถบสุมาตรา บอร์เนียว มาเลเซีย เวียดนาม เทือกเขาตะนาวศรี สำหรับในประเทศไทยพบเฉพาะทางภาคใต้และบางแห่งของภาคตะวันตก เช่นอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พบตามป่าดงดิบชื้น ตั้งแต่ระดับเชิงเขาจนกระทั่งความสูง 600 เมตร หรือมากกว่า
ที่มา
อุทยานแห่งชาติบูโด-สุโหงปาดี , กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
https://www.facebook.com/BudoSungaiPadiNationalPark.Official/-http://www.zoothailand.org/animal_view.php?detail_id=239&c_id=