รวบแรงงานต่างด้าวได้อีก 11 ราย หนีข้ามฝั่งเข้าไทยหางานทำ

4 ตุลาคม 2564 พันเอก สุวัฒน์ ทองใบ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ทหารประจำจุดตรวจศิลาสลัก ร้อย.ร.2521 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ว่าได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่ามีชาวเมียนมาหลบหนีข้ามมาฝั่งประเทศไทย โดยขึ้นฝั่งไทยโดยใช้เรือหางยาว บริเวณบ้านหนองผักบุ้ง ลักษณะเป็น สวนปาล์ม ม.2 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง จึงผสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.ปากจั่น นำกำลังกระจายในพื้นที่ออกตรวจสอบเฝ้าตรวจบริเวณดังกล่าว

เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบ จยย.จำนวน 2 คัน ขับมาจอด จึงดำเนินการซุ่มรอ จากนั้น ตรวจพบชาวเมียนจำนวนหนึ่ง เดินมาขึ้นรถ จยย.จึงทำการไล่ติดตาม สามารถควบคุมได้ ที่ ริมถนน ม.2 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง พบชาวเมียนมาจำนวน 6 คน เป็นผู้ชายทั้ง 6 คน ทำการสอบถาม ในเบื้องทราบชื่อคือ 1.นาย เว อายุ 43 ปี มาจาก ทวายคนขับมอเตอร์ไซ (คนนำพา) 2.นาย ปิปิ อายุ 19 ปี มาจาก ทวาย 3.นาย ซียะ อายุ 19 ปี มาจากทวาย  4.นาย แมะ อายุ 33 ปี มาจาก ทวาย คนขับมอเตอร์ไซร์ (คนนำพา) 5.นาย อู อายุ 23 ปี มาจากทวาย 6. นาย เทอ่าว อายุ 24 ปี มาจากทวาย 

จากนั้นทำการค้นหาในสวนปาล์มต่อเพิ่มเติม พบชาวเมียนมาเพิ่มเติม ชาย 2 คน หญิง 3 คน 7. นาย ซานโกฮู อายุ 27 ปี มาจาก เกาะสอง 8. นาย อาซ่า อายุ 18 ปี มาจากทวาย  9. น.ส.ยโม อายุ 22 ปี มาจากทวาย  10 น.ส.เซเซคาย อายุ 25 ปี มาจากทวาย 11. น.ส.มีทูแซ อายุ 21 ปี มาจากเกาะสอง

โดยชาวเมียนมาทั้งหมดที่หลบหนีเข้ามาในจังหวัดระนอง ข้ามมาจากหมู่บ้านเอชันตะ ด้วยเรือหางยาว บริเวณสวนปาล์ม และรอรถมารับส่วนสาเหตุที่ต้องลักลอบเข้ามาในไทยนั้น ชาวเมียนมาส่วนหนึ่งเดิมเคยทำงานในประเทศไทย แต่กลับบ้านช่วงโควิดที่ทางการไทยอนุญาตให้กลับเพราะไทยมีการแพร่ระบาด คิดว่ากลับบ้านดีกว่า แต่เมื่อกลับไปประเทศตนเองเพียงไม่กี่เดือนก็เกิดปัญหาความรุนแรงการปราบปราบและการพร่ระบาดเชื้อโควิด อีกทั้งยังไม่มีงานทำ จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้กลับมายังประเทศไทยเพื่อหางงานทำเพื่อส่งกลับไปให้ครอบครัวในประเทศเมียนมาจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งสภ.ปากจั่นเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว โดย:
ไพโรจน์ รัตนรัตน์ จ.ระนอง