พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เรียกประชุมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทุกกองทัพภาค เพื่อติดตามประเมินสถานการณ์อุทกภัย และให้การช่วยเหลือประชาชน เพื่อเข้าสนับสนุนกองทัพบกส่วนกลางไปยังพื้นที่ประสบภัย โดยเฉพาะการระดมทรัพยากร และยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกเพื่อใช้ในการบรรเทาสาธารณภัย อย่างทันท่วงที ซึ่งในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ทุกกองทัพภาคประสานงานร่วมกับทุกภาคส่วน เตรียมแผนรับมืออุทกภัยไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เพราะประเมินว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มมากขึ้นไปจนถึงเดือน พ.ย. จึงมีการเตรียมแผนที่รัดกุม ทันต่อสถานการณ์ จะทำให้การดูแลประชาชนของกองทัพบกเป็นไปอย่างทั่วถึง
ผู้บัญชาการทหารบก ได้ขอบคุณทุกหน่วยที่ดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างทุ่มเท และกำชับให้กําลังพลตระหนักถึงความปลอดภัยทั้งของตัวเองและผู้ประสบภัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ทั้ง ผู้ป่วย , ผู้พิการ หรือผู้สูงอายุ ควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันโควิด-19 ย้ำให้หน่วยจัดลำดับพื้นที่ในการช่วยเหลือ จัดสรรกำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ส่วนพื้นที่ไหนที่คลี่คลายแล้ว ให้เร่งทำการฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว โดยทำงานทุกส่วนให้ประสานกับส่วนราชการอื่นๆ อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ขอให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ระดมยุทโธปกรณ์จากหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกทุกหน่วย ที่สามารถนำมาปรับใช้ในการช่วยเหลืออุทกภัย โดยเฉพาะเครื่องมือช่างและยานพาหนะสายขนส่ง จัดมาเพิ่มเติมให้กับหน่วยในพื้นที่น้ำท่วม สะพานเครื่องหนุนลอยพับได้แบบ 79A (Ribbon Bridge) เพื่อจัดทำแพลอยน้ำขนาดใหญ่ ทั้งให้รวบรวมสิ่งของบรรเทาทุกข์ในพื้นที่น้ำท่วมสูงเป็นบริเวณกว้าง, การสนับสนุนเรือยนต์ขนาดต่างๆ เข้าเสริมการขนย้ายคนและสิ่งของให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งสนับสนุนอากาศยานเพื่อขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปส่งให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วมสูงเข้าถึงยาก และการปรับใช้เรือเร็วเพื่อการขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน เป็นการช่วยเหลือประชาชนตามเจตนารมณ์การใช้ยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า