เอาผิดนทท.เล่นเจ็ตสกีในเขตอุทยานฯ หาดเจ้าไหม

22 กันยายน 2564   ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวรายหนึ่งว่า ได้มีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งขับเจ็ตสกีเล่นอย่างสนุกสนานในทะเล จ.ตรัง  ซึ่งเป็นร่องน้ำระหว่างหาดหยงหลิงกับเกาะลิบง  ซึ่งเป็นเส้นทางว่ายน้ำไป- มาของพะยูน ใกล้แหล่งหญ้าทะเลอาหารของพะยูน จึงเป็นการรบกวนพะยูน แหล่งอาศัยหากิน  และทำลายทรัพยากรธรรมชาติ จึงได้ตรวจสอบไปยังนายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ทราบว่า รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง ในพื้นที่หาดยาว ม.6 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง

โดยในคลิปปรากฎภาพการนำเจ็ทสกีจำนวน   2 -3 ลำ ขับขี่วนไปมาในร่องน้ำดังกล่าว และจนถึงบริเวณหน้าชายหาดบ้านหาดยาว  ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม  เหตุเกิดในช่วงเวลา 13.30-14.00 น. เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา  โดยทางเจ้าหน้าที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดทางพรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19 (2) เก็บหานำออกไปกระทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตรายหรือกระทำให้เสื่อมสภาพซึ่ง ไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ปิโตรเลียมหรือทรัพยากรอื่น หรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ล่าสุด จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมหน่วยหยงหลิง รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.กันตังแล้ว  อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กล่าวว่า ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีกลุ่มบุคคลขับเจ็ทสกีในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามเขตอุทยานแห่งชาติ ถือว่าเป็นการกระทำที่เป็นการทำให้เกิดความสูญเสียหรือส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศหรือสิ่งแวดล้อมต่างๆในเขตอุทยานแห่งชาติ เป็นการกระทำที่มีความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติตามพ.ร.บ.พ. ศ. 2562 ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงได้สั่งการไปยังหัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหาดหยงหลิง ซึ่งเป็นหน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ได้ทำบันทึก รวบรวมคลิป เอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้อง แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนสภ.กันตัง เมื่อวันที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำในการผิดกฎหมายอุทยานแห่งชาติ เป็นการกระทำที่ทำให้ทรัพยากรทางธรรมชาติ ถูกทำลายหรือเสื่อมเสียหรือมีผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายที่บัญญัติไว้โดยเคร่งครัด

เบื้องต้นยังไม่ทราบตัวผู้กระทำความผิดที่ชัดเจนก็ต้องสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป  พร้อมประชาสัมพันธ์ไปถึงนักท่องเที่ยว และประชาชนว่า การกระทำใดๆที่อาจจะมุทะลุหรือคึกคะนองในเขตอุทยานแห่งชาติ จะมีความผิดตามกฎหมาย  และใกล้กันเป็นแหล่งหญ้าทะเลในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ถือว่าเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพะยูน สัตว์ทะเลสัญลักษณ์ความสำคัญที่อุดมสมบูรณ์ของทะเลตรัง  เพราะฉะนั้นการกระทำดังกล่าวถือว่ามีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ อย่างไรก็ตามหากพบตัวผู้กระทำผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป 

ภาพ/ข่าว โดย:
คนิตา  สีตอง จ.ตรัง