"หมอทศพร”ยื่นหนังสือสถานทูตออสซี่-แบ่งปันแอสตร้าเซนเนก้า

เมื่อเวลา 14.38 น.วันที่ 22 กันยายน 2564 นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ พรรคไทยรักไทย ได้โพสต์ข้อความทาง ไลน์ว่า “นพ.ทศพร ยื่นหนังสือ สถานทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ขอแบ่งปันวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca)ที่มีเพียงพอมาฉีดให้คนไทยเพิ่มเติม พร้อมหารือเรื่องปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทยด้วย"

นายแพทย์ทศพร กล่าวว่า  ตนได้ทราบจากสื่อสารมวลชนว่าทางการออสเตรเลียได้มีการเปลี่ยนแปลงคำแนะนำเรื่องการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แก่ประชาชน โดยจำกัดการให้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไปเท่านั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงเรื่องภาวะลิ่มเลือดอุดตัน แต่ภาวะความเสี่ยงดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นมีอัตราความเสี่ยงอยู่ที่ 2.7 รายต่อผู้ได้รับวัคซีน 100,000 ราย ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงในอัตราที่ต่ำมาก

แต่กระนั้นส่งผลให้ประชาชนปฏิเสธการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า แต่ประเทศไทยเราเองยังมีวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าในจำนวนน้อย ภาครัฐจัดหาเข้ามายังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน รวมถึงล่าสุดทราบว่าทางรัฐบาลออสเตรเลียใช้วิธีเจรจายืมและแลกเปลี่ยนวัคซีนกับหลายประเทศ อาทิ อังกฤษและสิงคโปร์ ตนเองจึงคิดว่าออสเตรเลียน่าจะมีวัคซีนเพียงพอในระดับหนึ่ง รวมถึงน่าจะมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอยู่จำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ใช้ 

ทั้งนี้ ถ้าเราขอความอนุเคราะห์นำเข้ามาเพื่อใช้ฉีดให้กับคนไทยที่ยังขาดแคลนวัคซีนก็น่าจะเป็นประโยชน์กับคนไทยมากกว่าปล่อยให้วัคซีนเหลือทิ้งไว้จนหมดอายุลงโดยไร้ประโยชน์ ตนเองจึงมายื่นหนังสือเพื่อขอความอนุเคราะห์วัคซีนให้คนไทย รวมถึงใช้โอกาสนี้ได้พูดคุยปรึกษาแสดงความกังวล เรื่องปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยผ่านเหตุการณ์สลายการชุมนุมของประชาชนในช่วงที่ผ่านมาอีกด้วย

"วัคซีนโควิดเป็นความหวังของคนทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศตัวอย่างที่มีความพยายามทั้งเจรจายืมวัคซีน แลกเปลี่ยนวัคซีนเพื่อให้ได้วัคซีนที่ดีและเพียงพอฉีดประชากรให้ได้ 70-80% เพื่อเป็นสัญญาณบวกก้าวแรกในการเปิดประเทศ ซึ่งอยากฝากรัฐบาลไทยให้ได้ดูเป็นตัวอย่างว่าการจัดหาวัคซีน ไม่ใช่แค่รอซื้อแค่ยี่ห้อเดียวแล้วนั่งรอเขาส่ง แต่การส่งทูตไปเจรจาเพื่อขอยืมและแลกเปลี่ยนวัคซีนก็เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มปริมาณวัคซีนให้กับประเทศให้เพียงพอได้ด้วย" นายแพทย์ทศพร กล่าว

โดย สุภัทร แสดงดอก / แพร่