เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
21 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ย้ำ การฉีดวัคซีนเข็ม3 หรือบูสเตอร์โดสให้ประชาชนเฉพาะกลุ่มที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มในช่วงเดือน มีนาคม-พฤษภาคม ก่อน ซึ่งมีประมาณ 4 ล้านคน เพื่อให้เกิดการกระตุ้มภูมิคุ้มกันรองรับเชื้อกลายพันธุ์ โดยจะจัดวัคซีนแอสตร้าเซนนิกาให้เป็นเข็มที่ 3
ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่มนี้ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ แต่จะมีการจัดส่งข้อความแจ้งให้เข้ารับวัคซีน ตามเวลานัดหมาย ขณะเดียวกัน สิ้นเดือนตุลาคมนี้ จะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบ 60 ล้านโดส ซึ่งเมื่อวานนี้ ทางกรมควบคุมโรค ได้รายงานผลการฉีดวัคซีน มั่นใจว่า กลุ่มเป้าหมาย จะได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส ภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน
นายอนุทิน ยืนยันว่า จำนวนวัคซีนโควิดปีนี้มีความเพียงพอ รวมถึงได้มีการจัดหาวัคซีนบูสเตอร์โดส หรือวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ให้ประชาชนครบถ้วนแล้ว สำหรีบปีหน้าที่จะใช้เข็มเดียว เบื้องต้นเตรียมไว้ประมาณ100 กว่าล้านโดส แต่ต้องดูสถานการณ์ในช่วงเวลาขณะนั้นประกอบกันด้วย และเชื่อว่า ปีหน้า ปัญหาวัคซีนต่างๆ จะคลี่คลาย ทั้งราคาวัคซีนก็น่าจะลดลง เนื่องจากมีวัคซีนมากขึ้น รวมถึงการมาถึงของวัคซีนก็น่าจะดีขึ้น ไม่มีความวุ่นวายเหมือนปีนี้
เสียงอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ นายอนุทินย้ำว่า วัคซีนไฟเซอร์ที่รัฐบาลจัดหาจำนวน 30 ล้านโดส เพื่อนำมาฉีดให้กับเด็ก และเยาวชนอายุ 12 ปีขึ้น ซึ่งทั่วประเทศมีอยู่ 5 ล้านคน มีความปลอดภัย และป่านการการทดลอง ศึกษาวิจัย รวมถึงขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ไม่ใช่เพราะเป็นวัคซีนซีนชนิด mRNA จึงขอให้ผู้ปกครองมั่นใจ ขณะเดียวกันเตรียมให้กรมควบคุมโรคจัดทำคู่มือการฉีดวัคซีนสำหรับเด็ก เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ปกครอง
ส่วนวัคซีนสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี อยู่ระหว่างรอบริษัทผู้ผลิตวัคซีนมาขึ้นทะเบียนกับอย. ย้ำหากไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนก็จะไม่นำมาฉีดให้เด็กเป็นอันขาด แต่หากมีผลวิจัยรองรับว่า มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ก็จะเร่งจัดหาเพื่อมาฉีดให้เด็กทันที