พศ.แจงพระลงนะหน้าทอง แค่ล้อเล่นกับเพื่อน

วันนี้ (21 ก.ย.) นายสิปป์บวร แก้วงาม รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะโฆษก พศ. กล่าวถึงกรณี ที่มีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง หมู่10 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี (อ่านต่อรายละเอียด) ว่า เรื่องนี้นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการพศ. ได้กำชับให้ตรวจสอบแล้ว

โดยวัดดังกล่าวได้มีการทำข้อตกลงร่วมมือเป็นสถานบำบัดยาเสพติด ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) อย่างถูกต้อง แต่เมื่อเกิดปัญหา ก็ขอให้ทางวัดทำหนังสือขอยกเลิกข้อตกลงการเป็นสถานที่ยำบัดยาเสพติด ส่วนผู้เข้ารับการบำบัดที่เหลือกว่า100 คน ส่วนหนึ่งไปบำบัดต่อที่เขาชนไก่ อีกส่วนประสานให้ญาติมารับกลับ ส่วนการลงโทษพระในวัดที่ดูแลนั้น เป็นเรื่องของเจ้าคณะผู้ปกครอง ส่วนนี้ทางรักษาการเจ้าอาวาส หรือเจ้าคณะผู้ปกครองจะต้องเข้ามาดูแลให้เกิดความเรียบร้อย

ส่วนกรณีโลกออนไลน์ เกี่ยวกับพฤติกรรมของชายหนุ่มคนหนึ่งที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์และอาศัยอยู่ในวัดชื่อดังแห่งหนึ่ง กลางเมืองเชียงใหม่ โดยตั้งตัวเป็นจอมขมังเวทย์ และใช้กุฏิในวัดดังกล่าวเปิดเป็นสำนักประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ทั้งรับสักยันต์,ลงนะหน้าทอง และปลุกเสกเครื่องรางของขลัง เป็นต้น นั้น (อ่านต่อรายละเอียด) จากการตรวจสอบ พบว่า วัดดังกล่าวคือวัดปันเส่า อ.เมืองเชียงใหม่ วัดเดียวกับที่เกิดกรณีพระ7รูป ตั้งวงปาร์ตี้ หมูกระทะ ดื่มเบียร์ภายในวัดหน้าองค์พระ ซึ่งทั้งหมดได้ลาสิกขาบทแล้ว

โดย รักษาการเจ้าอาวาส ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า พระดังกล่าวไม่ใช่พระลูกวัด แต่มาขอจำพรรษา และได้มีเพื่อนมาเยี่ยม จึงมีการทำท่าทางเหมือนทำพิธีลงนะหน้าทอง และท่าทางต่างๆ เป็นการล้อเล่น และมีการถ่ายรูปลงโซเชียลมิเดีย ซึ่งเมื่อทราบเรื่องทางรักษาการเจ้าอาวาส ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง มีการว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บนหากมีพฤติกรรมเช่นนี้อีกจะถูกขับออกจากวัด หรือต้องออกจากวัดทันทีหลังพ้นพรรษา

“ตรวจสอบแล้ว เรื่องนี้เป็นการล้อเล่นกัน และมีการนำไปโพสต์ลงโซเชียล จนเป็นเรื่อง เมื่อรักษาการเจ้าอาวาสรับทราบก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการหารือเจ้าคณะจังหวัดและเร่งกำเนินการตักเตือน ทำทัณฑ์บนทันที” โฆษกพศ.กล่าว