ชาวบ้านหนองสี่แจ่งร้องถนนพังนาน 10 ปีไร้การเหลียวแล

วันที่ 21 กันยายน​ 2564 ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวีรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองสี่แจ่ง ม.8 ต.หนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ถนนทางเข้าหมู่บ้านที่ความชำรุดทรุดโทรมเสียหายมากว่า 10 ปี ไม่ได้รับการซ่อมแซม ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าถนนเส้นทางดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นบริเวณถนนเชียงใหม่-ลำพูน(สายเก่า) ข้างโรงเรียนบ้านปากกอง ต.สารภี ต.สารภี จ.เชียงใหม่ เข้ามาจนถึงหมู่บ้านมีระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร พบว่ามีหลายจุดได้รับความเสียหายเป็นหลุมลึกและมีน้ำขังเมื่อฝนตก ยานพาหนะที่สัญจรผ่านไปมา ต่างขับหลบหลุม แต่หากมีรถสวนจำเป็นจะต้องขับรถลงหลุม ซึ่งทำให้รถเสียหาย

ชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ถนนเส้นนี้ถือเป็นเส้นทางหลักในการเข้าออกหมู่บ้าน มีรถสัญจรเข้าออกเป็นจำนวนมาก ถ้าฝนไม่ตกจะมองเห็นเป็นหลุมลึก ชาวบ้านได้ช่วยกันเอาดินมาถม แต่เมื่อฝนตกหนักดินจะหายไปเหลือแต่หลุม หลายครั้งชาวบ้านหรือคนที่เข้ามาทำธุระในหมู่บ้านจะประสบอุบัติเหตุจุดนี้บ่อยครั้ง เพราะหลบหลุมไม่ทันบาดเจ็บกันไปหลายคนแล้ว

โดยสาเหตุที่ทำให้ถนนชำรุดทรุดโทรมคาดว่าอาจเกิดจาก รถบรรทุกดินขนาดใหญ่ที่วิ่งเข้าออกหมู่บ้านทุกวันมาตลอดหลายปี โดยรถบรรทุกดินจะมีเพียงไม่กี่คันที่วิ่ง เป็นรถร่วมของบริษัทหนึ่ง โดยกลุ่มรถร่วมนี้ดูแลโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่นรายหนึ่ง โดยรถจะติดตราสิงห์ของฝ่ายปกครองไว้หน้ารถ ถ้าหากรถบรรทุกดินคันไหน ไม่มีตราสิงห์และเจ้าหน้าที่รายนี้พบจะทำการเรียกให้จอด แล้วบอกให้ไปวิ่งเส้นทางอื่น

ชาวบ้านกล่าวต่ออีกว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ไปถามในหลายหน่วยงาน แต่ไม่ได้การตอบรับ ประกอบกับถนนทรุดโทรมลงทุกวัน ทำให้ชาวบ้านเดือนร้อนมานับสิบปี อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบและเร่งซ่อมแซมหรือเทลาดยางใหม่ พร้อมกับออกกฎหมายห้ามรถบรรทุกดินหรือรถขนาดใหญ่วิ่งเข้าออก เพื่อไม่ให้ถนนเสียหายอีก

ในเรื่องนี้ นายอนุชา แสงสว่าง นายกเทศมนตรีตำบลหนองแฝก เปิดเผยว่า ถนนเส้นนี้จุดที่ทรุดโทรมส่วนใหญ่ อยู่ในเขตพื้นที่ตำบลสารภี ทางเทศบาลตำบลหนองแฝกได้ประสานไปหลายครั้ง ทางเทศบาลตำบลสารภี ได้มีการร่วมกันทำโครงการเสนอของบจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ระหว่างการรอผลว่าจะได้ซ่อมแซมถนนหรือไม่