svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ชาวบ้านร้องย้ายสถานสงเคราะห์สุนัขชาวต่างชาติส่งกลิ่นเหม็นเสียงดัง

21 กันยายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ชาวบ้าน บุกร้องศูนย์ดำรงธรรม จ.บุรีรัมย์ จี้ให้ย้ายสถานสงเคราะห์สุนัขชาวต่างชาติ ที่เคยเป็นกระแสดรามาขังคนงานในกรงหมา ชี้สร้างความเดือดร้อนทั้งกลิ่น เสียงดัง และปล่อยสิ่งปฏิกูลลงคลองสาธารณะทั้งการก่อตั้งก็ไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง

21 กันยายน 2564 ตัวแทนชาวบ้าน ผู้ประกอบการรีสอร์ทและอดีตคนงานสถานสงเคราะห์สัตว์ อ.บ้านกรวด บุกร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ช่วยเหลือย้ายสถานสงเคราะห์สัตว์  “The Sound Of Animals”  ที่ตั้งอยู่หมู่ 1 ต.ปราสาท  อ.บ้านกรวด ที่มีชาวต่างชาติ และภรรยาคนไทยเป็นผู้ดูแล ให้ย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้ชุมชน ทำให้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้าน และผู้ประกอบการในพื้นที่ ทั้งส่งกลิ่นเหม็น  เสียงดังรบกวนและมีการลักลอบปล่อยสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ลงลำคลองสาธารณะที่อยู่ใกล้เคียงด้วย ซึ่งปัจจุบันทราบว่ามีสุนัขอยู่มากถึง 270 ตัว บางครั้งมีการนำอาหารมาเทให้สุนัขกินตามถนน คันนา เดินอุจจาระเรี่ยราดไปทั่ว โดยผู้ร้องบอกว่าได้รับความเดือดร้อนจากสถานสงเคราะห์สุนัขดังกล่าวมานานหลายปีแล้ว แต่บางคนก็ไม่อยากยุ่งและไม่กล้าออกมาร้องเรียน เพราะกลัวไม่ปลอดภัยเนื่องจากเคยมีคนไปร้องเรียนแล้วถูกภรรยาชาวต่างชาติที่ดูแลสถานสงเคราะห์สุนัขไปหาเรื่องทำร้ายร่างกายมาแล้ว   

ชาวบ้านร้องย้ายสถานสงเคราะห์สุนัขชาวต่างชาติส่งกลิ่นเหม็นเสียงดัง

ชาวบ้านร้องย้ายสถานสงเคราะห์สุนัขชาวต่างชาติส่งกลิ่นเหม็นเสียงดัง


       

กระทั่งเมื่อปี 2562  ที่ผ่านมา ได้เกิดกระแสดรามาลูกจ้างที่ทำงานในสถานสงเคราะห์สุนัขดังกล่าวได้ร้องเรียนผ่านโซเชียล และแจ้งความที่ สภ.บ้านกรวด ว่าถูกนายจ้างหรือผู้ดูแลชาวต่างชาติ บังคับขังไว้ในกรงสุนัขให้อดข้าวอดน้ำ เพราะทำงานไม่ถูกใจ จนมีหลายหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ดูแล รวมไปถึงการก่อตั้งสถานสงเคราะห์ว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งกรณีที่ลูกจ้างแจ้งความว่าถูกกดขี่บังคับนั้นขณะนี้เรื่องยังอยู่ในกระบวนการศาล ส่วนเรื่องการก่อตั้งที่ไม่ถูกต้องนั้นทางเทศบาลตำบลตลาดนิคมปราสาท ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ ก็ได้มีหนังสือคำสั่งให้สถานสงเคราะห์ดังกล่าวรื้อถอนอาคารให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 มิ.ย.2564 จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นมีการดำเนินการแต่อย่างใด แต่กลับมีการโพสต์ลงในโซเชียลว่ามีการขยายระยะเวลารื้อถอนอาคารสถานสงเคราะห์สุนัขออกไปอีก 3 เดือน ก็สร้างความไม่สบายใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ จึงได้พากันมาร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดให้ตรวจสอบช่วยเหลือและเร่งรัดการรื้อถอนหรือย้ายสถานสงเคราะห์สุนัขดังกล่าวออกจากพื้นที่โดยเร็วด้วย

ชาวบ้านร้องย้ายสถานสงเคราะห์สุนัขชาวต่างชาติส่งกลิ่นเหม็นเสียงดัง


 

นายสุชาติ ปั้นก้อน ตัวแทนชาวบ้านที่มาร้องเรียน บอกว่า ที่ชาวบ้านและผู้ประกอบการในพื้นที่มาร้องศูนย์ดำรงธรรมในวันนี้เนื่องจากสถานสงเคราะห์สุนัข ไม่ได้ดำเนินการรื้อถอนอาคารตามคำสั่งของทางเทศบาลที่มีกำหนดให้รื้อถอนตั้งวันที่ 10 มิ.ย.2564 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังอยู่เหมือนเดิม ส่วนสถานที่ใหม่ที่อ้างว่าจะย้ายออกไปก็ยังไม่เห็นดำเนินการอะไร จึงได้พากันมาร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมเพื่อติดตามความคืบหน้าและเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการติดตามการรื้อถอน หรือย้ายสถานสงเคราะห์สุนัขดังกล่าวออกจากพื้นที่ตามคำสั่งหรือบันทึกข้อตกลงของทางเทศบาลโดยเร็วด้วย เพื่อบรรเทาผลกระทบกับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง
ขณะที่ น.ส.สติรักตร์ อิ่มจินดา เจ้าของรีสอร์ท บอกว่า  ตนได้รับผลกระทบจากสถานสงเคราะห์สุนัขดังกล่าวโดยตรง เพราะตั้งอยู่ห่างจากรีสอร์ทเพียงประมาณ 100 เมตร ทุกวันจะได้ยินเสียงเห่าหอน กลิ่นเหม็นอุจจาระสุนัข เพราะบางวันก็ปล่อยออกมากินอาหารและอุจจาระข้างนอก ซึ่งตนและชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้รับเกียจสุนัขหากมีการดูแลจัดระบบให้ดีไม่ให้สร้างความเดือดร้อนหรือรบกวนคนอื่น บางครั้งก็มีคนจากนอกพื้นที่นำสุนัขมาปล่อยทิ้งใกล้ๆ สถานสงเคราะห์ดังกล่าวเพราะคิดว่าเขาจะเอาไปดูแล แต่ความจริงเขาไม่ได้รับเอาไปดูแลทำให้สุนัขที่ถูกนำมาปล่อยทิ้งกลายเป็นภาระชาวบ้านอก ซึ่งปกติชาวบ้านก็ไม่ได้อยากมีเรื่องมีราวอยู่แล้ว แต่ที่มาร้องเพราะทนไม่ไหวจริง ๆ แต่ที่ผ่านมาตนซึ่งเคยไปร้องเรียนถึงความเดือดร้อนกลับถูกภรรยาชาวต่างชาติ บุกเข้าไปทำร้ายถึงในรีสอร์ท ขณะนี้เรื่องก็อยู่ในกระบวนการศาล จากกรณีที่เกิดขึ้นก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการกับสถานสงเคราะห์สุนัขดังกล่าวจริงจัง อย่าปล่อยให้สร้างความเดือดร้อนกับคนอื่นหากเป็นไปได้ก็อยากย้ายออกไปไกลจากหมู่บ้าน ชุมชน 
ขณะ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจ.บุรีรัมย์  ก็ได้รับเรื่องพร้อมจะประสานกับหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

โดย - สรุชัย พิรักษา

 

logoline