svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ระลึกเหตุ "ลุงนวมทอง" ขับแท็กซี่ชนรถถัง ต่อต้านรัฐประหาร 2549

18 กันยายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เหตุการณ์รัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย.2549 ไม่ได้มีแค่เรื่องกองทัพบุกยึดอำนาจเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวของ "ลุงนวมทอง" ที่ยังอยู่ในความทรงจำใครหลายคน

รถถัง และเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าประจำการบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และถนนราชดำเนิน ยาวไปถึงถนนสายต่างๆ โดยรอบ เป็นภาพจำของเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย.2549 โดยคณะ “คปค.” ที่ภายหลังเปลี่ยนเป็นชื่อ “คมช.” นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะ ยึดโค่นอำนาจจากรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร 

 

ซึ่งวันครบรอบ 15 ปี แห่งหน้าประวัติศาสตร์ 19 ก.ย.ได้เวียนวนกลับมาบรรจบอีกครั้ง นอกจากผลพวงต่างๆ ที่ตกทอดมาสู่ยุคปัจจุบัน ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ติดอยู่ในความทรงจำใครหลายคน โดยค่ำคืนของวันที่ 31 ต.ค.2549 หรือคล้อยหลังการยึดอำนาจเพียง 42 วัน ชายสวมเสื้อสีดำ สกรีนข้อความบทกวี ตัดสินใจ “จบชีวิต” ด้วยการแขวนคอตาย ที่บริเวณราวสะพานลอย เยื้องหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถ.วิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก

ย้อนระลึก "ลุงนวมทอง" ผู้ที่ขับแท็กซี่ชนรถถัง

โดยในจดหมายลาตาย ระบุว่า ต้องการลบคำสบประมาทของ พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษก คปค.ที่ว่า “ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้”

ชายคนนั้น คือ นายนวมทอง ไพรวัลย์ หรือ “ลุงนวมทอง” วัย 60 ปี อดีตพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งหันเหมาทำอาชีพขับรถแท็กซี่ ที่มีอุดมการณ์ส่วนตัวแรงกล้า

ย้อนระลึก "ลุงนวมทอง" ผู้ที่ขับแท็กซี่ชนรถถัง

ซึ่งก่อนจะ “พลีชีพ” เป็นเวลา 1 เดือน จนทำให้สะพานลอยตรงนั้น กลายเป็นจุดสดมภ์อนุสรณ์ ที่มีผู้คนเดินทางมาระลึกทุกปี พบว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2549 หรือหลังการรัฐประหาร 11 วัน “ลุงนวมทอง” ได้ขับรถแท็กซี่ รุ่นโคโรล่า สีม่วง ทะเบียน ทน 345 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถถังของคณะรัฐประหาร ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า จนได้รับบาดเจ็บ

 

หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น “ลุงนวมทอง” ให้สัมภาษณ์ “จอม เพชรประดับ” อดีตนักข่าวชื่อดังว่า “ลุงอยากจะทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้เขารู้ว่ามีคนต่อต้าน ลุงไม่อยากอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการ”

ย้อนระลึก "ลุงนวมทอง" ผู้ที่ขับแท็กซี่ชนรถถัง

ภายหลังการเสียชีวิตของ “ลุงนวมทอง” มีการเผยแพร่จดหมายลาตาย ซึ่งบางช่วงระบุว่า “ไม่ว่าในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคตภายภาคหน้า จะยังมีผู้คนที่ยอมแลกชีวิตอันมีค่าของตน เพื่อรักษาไว้ซึ่งคุณค่าแห่งอุดมการณ์”

ขณะที่ช่วงท้ายเขียนว่า "สุดท้ายขอให้ลูกๆ และภรรยาจงภูมิใจในตัวพ่อ ไม่ต้องเสียใจ ชาติหน้าเกิดมา คงไม่พบเจอการปฏิวัติอีก ลาก่อน พบกันชาติหน้า ปล.ขอแก้ข่าว ขวดยาที่พบในรถภายหลังเกิดเหตุ คืออาหารเสริมแคปซูลใบแปะก๊วย ไม่ใช่ยาแก้เครียดตามที่ลงข่าว นสพ.ผมไม่เครียด แต่ประท้วงจอมเผด็จการ"

ย้อนระลึก "ลุงนวมทอง" ผู้ที่ขับแท็กซี่ชนรถถัง

แม้ตัวของ “ลุงนวมทอง” จะลาจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ชื่อเสียงเรียงนาม และอุดมการณ์ของเจ้าตัว ถูกถ่ายทอดเป็นสื่อในรูปแบบต่างๆ ทั้งบทเพลงที่ชื่อ “นวมทอง ไพรวัลย์” จากศิลปินชาวเชียงใหม่ หรือบทเพลง “วีรชนนวมทอง" ของวงไฟเย็น

 

ยังไม่จบแค่บทเพลง แต่เรื่องราวของ “ลุงนวมทอง” ยังถูกทำเป็นภาพยนตร์เรื่อง “Democracy After Death : A Tragedy of Uncle Nuamthong Praiwan” และไม่รวมถึงบทกวี หรืองานรำลึกต่างๆ ของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มักจะมีชื่อชายคนนี้ปรากฎอยู่ในเนื้อหามาตลอด

 

จากวันนั้นจนวันนี้ หรือเป็นเวลากว่า 15 ปี “ประชาธิปไตย” และบริบทความ “ขัดแย้ง” ในไทย เปลี่ยนแปลงไปมากหรือไม่ หรือเรายังวนเวียนอยู่ที่จุดเดิมมาตลอด??

ย้อนระลึก "ลุงนวมทอง" ผู้ที่ขับแท็กซี่ชนรถถัง

logoline