17 กันยายน 2564 ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีคณะบุคคล หัวหน้าส่วนราชการองค์กรภาคเอกชน และประชาชน ร่วมแสดงความยินดีพร้อมกับอวยพรและให้กำลังใจ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในโอกาสที่ได้รับการแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิด
ในโอกาสนายวีระศักดิ์ ได้ใช้ห้องประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อกล่าวอำลาเพื่อนร่วมงาน และผู้ใต้บังคับบัญชา โดยมี นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นตัวแทนข้าราชการในจังหวัด และผู้ที่อยู่ในห้องประชุมกล่าวแสดงความรูัสึก และมอบของที่ระลึก
ว่าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เผยความในใจต่อที่ประชุม ว่า จากการทำงานร่วมกันมา 2 ปี ตนเองยังมีความเป็นห่วงจังหวัดสมุทรสาครใน 3 เรื่องคือ
1. เรื่องของอควาเรียม หรือศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญต่อจังหวัดสมุทรสาคร แม้ตอนนี้จะยังปิดให้บริการ แต่ไม่ใช่การปิดถาวร เพราะงบประมาณที่จังหวัดได้ขอเพื่อมาปรับปรุงนั้นผ่านการอนุมัติแล้วและสามารถใช้ได้ในปี 65 ซึ่งจะทำให้การปรับปรุงเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามแผน แต่ที่สำคัญ อยากให้ทุกคนช่วยกันหาจุดแข็งของอควาเรียม เพื่อเป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น การเป็นเบอร์หนึ่งในการเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูน เพื่อสร้างจุดขายให้กับอควาเรียม
2. เรื่องแรงงานต่างด้าว ที่มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งในส่วนที่ขึ้นทะเบียนถูกกฏหมายประมาณเกือบ 300,000 คน และยังมีในส่วนที่ผิดกฏหมายอีก โดยเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการดูแลด้านสุขลักษณะ และความเป็นอยู่ต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในการอยู่ร่วมกัน
3. เรื่องโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคที่ยังอยู่กับเราไปอีกนาน ทำอย่างไรจึงจะอยู่กับมันให้ได้ ส่วนเรื่องการบูสเตอร์เข็ม 3 และการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียน ฝากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ดูแลดำเนินการให้ฉีดโดยเร็ว เพื่อจังหวัดสมุทรสาครจะได้ขับเคลื่อนและเดินหน้าต่อไปได้
นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อ การเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร คือการทำงานด้วยหัวใจอย่างแท้จริง โดยคิดเสมอว่าตนเองเป็นคนสมุทรสาครตลอดเวลา ไม่ใช่มาทำงานในหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อรอวันที่จะย้ายไปที่อื่น ดังนั้นการทำงานทุกเรื่องมีเป้าหมายความสำเร็จ เพื่อความสุขของคนสมุทรสาครเป็นสำคัญ ทุกปัญหาจึงต้องการการแก้ไขให้หมดไปโดยเร็ว
การทำงานท่ามกลางปัญหาที่สาหัสในขณะนี้ สมุทรสาครมีปัญหาให้ต้องแก้ไขมากมาย ถ้าไม่ทำงานด้วยใจ คิดว่าการแก้ไขปัญหาให้หมดไปคงเป็นไปได้ยาก
"สุดท้าย การทำงานในหน้าที่ผู้ว่าฯ ไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา รับไปปฏิบัติต่อด้วยความร่วมมือร่วมใจ ทำให้การดำเนินงานเป็นไปได้ด้วยดี และขอเป็นกำลังใจกับทุกคนให้สู้ต่อไป อย่ายอมแพ้ และยังพร้อมเป็นกำลังใจให้ตลอดไป ขอขอบคุณผู้ร่วมทำงานทุกคนจากใจจริงๆ" นายวีระศักดิ์ กล่าวในที่สุด