2 สาว กระโดดสะพานแม่น้ำมูลตาย 1 รอด 1เชื่ออาถรรพ์เสื้อแดง

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 16 กันยายน 2564  พ.ต.ท.ฉลอง อุคะ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากคนหาปลาในแม่น้ำมูล พบศพผู้หญิงลอยน้ำมาติดกอสวะเขตบ้านปากน้ำ ต.กุดลาด ก่อนถึงเจดีย์หาดบุ่งสะพัง-ศรีภิรมย์ ประมาณ 500 เมตร คาดจะเป็นศพของหญิงสาวที่กระโดดลงมาจากสะพานเสรีประชาธิปไตย สะพามข้ามแม่น้ำมูล เมื่อช่วงดึกคืนวันที่ 15 ก.ย. จึงประสานให้หน่วยกู้ภัยมูลนิธิการกุศลจีตัมเกาะอุบลราชธานี นำเรือของเทศบาลนครอุบลราชธานี ออกไปช่วยเก็บกู้ศพขึ้นมาพิสูจน์และตามหาญาติ  แต่ปรากฏว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยกำลังพากันขึ้นเรือที่ท่าน้ำตลาดใหญ่ติดกับสะพานเสรีประชาธิปไตย เพื่อนำเรือออกไปยังจุดที่พบศพห่างไปประมาณ 3-4 กิโลเมตร ก็มีผู้หญิงรายใหม่อายุประมาณ 50 ปีเศษ ขี่จักรยานยนต์มาจอดบริเวณกลางสะพาน ก่อนกระโดดพุ่งหลาวลงไปในกลางแม่น้ำทั้งที่ยังสวมหมวกกันน็อก

 
ด้านนายสุวรรณชัย ทาระเกต เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อร่างหญิงสาวถึงน้ำ ก็ยังไม่จมหายไป เพราะน่าจะว่ายน้ำเป็น จึงยังโผล่หัวพยุงตัวลอยไปตามกระแสน้ำที่กำลังเชี่ยวกราก ตามอัตราการไหลของน้ำในช่วงฤดูฝนที่มีความเร็วกว่า 959 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้แม่ค้าและคนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าที่เห็นเหตุการณ์ ร้องตะโกนบอกกันด้วยความตกใจ หน่วยของตนที่อยู่ใกล้จุดโดด จึงรีบนำเรือออกไปดึงร่างหญิงคนดังกล่าวขึ้นมาบนเรือในสภาพอ่อนแรง มีอาการสำลักน้ำ หลังช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก็รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล จากการสอบถามทราบว่า หญิงคนดังกล่าวมีภูมิลำเนาอยู่ในตำบลเมืองศรีไค อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี มีอาการเครียดจากปัญหาครอบครัว หลังรักษาอาการจมน้ำแล้ว แพทย์ด้านจิตวิทยาจะได้เข้าดูแลต่อ

จากการสอบถามนายสุคนธ์ จันทร์แจ่ม อายุ 53 ปี พนักงานกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลนครอุบลราชธานี ซึ่งดูแลด้านความสะอาดของตลาดสดที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ระหว่างตนมายืนดูหน่วยกู้ภัยกำลังลงเรืออยู่บนตลิ่งแม่น้ำมูล เพื่อไปเก็บศพที่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายเมื่อวันก่อน มองเห็นหญิงวัยกลางคนรายนี้ ขี่ จยย.มาจอดที่กลางสะพาน แล้วปีนขึ้นไปบนราวสะพานก่อนกระโดดลงมากลางแม่น้ำ และถูกน้ำที่ไหลเชี่ยวพัดพาร่างห่างจากสะพานไปแล้ว 200-300 เมตร โชคดีขณะนั้น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยกำลังจะนำเรือออกจากท่าน้ำ เพื่อไปเก็บศพของหญิงสาวที่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายเมื่อคืนก่อน เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นเหตุการณ์ก็รีบนำเรือออกไปช่วยดึงร่างของหญิงที่เพิ่งกระโดดลอยอยู่กลางแม่น้ำขึ้นมาบนเรือได้อย่างปลอดภัย หากช้าไปอีก 1-2 นาที ตนเชื่อว่าหญิงคนนี้ อาจไม่มีโอกาสรอดชีวิต

สำหรับสาเหตุที่คนชอบมาโดดสะพานตรงจุดนี้ เพราะสะดวกมีรถประจำทางแล่นผ่านตลอดทั้งวัน หรือขับรถมาจอดบนสะพานแล้วก็กระโดดลงไปได้เลย ซึ่งการกระโดดสะพานเกิดขึ้นเป็นประจำ ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากผิดหวังความรัก มีปัญหาครอบครัว ปัญหาหน้าที่การงาน และทั้งหมดเป็นคนมาจากต่างถิ่น ไม่ใช่คนในชุมชนละแวกนี้ ที่อยู่กับสะพานที่สร้างครั้งแรกเมื่อกว่า 67 ปีก่อน

สำหรับศพของหญิงสาวที่กระโดดสะพานเสรีประชาธิปไตย เมื่อกลางดึกวันที่ 15 ก.ย. และลอยไปติดก่อสวะผักตบชวาห่างจากจุดโดดสะพานเสรีประชาธิปไตยไปกว่า 3-4 กิโลเมตร เป็นคนผิวขาว สวมเสื้อยืดคอกลมสีแดงเลือดหมู ใส่กางเกงผ้ายืดขายาวสีดำ ระหว่างนำศพขึ้นจากน้ำ ก็ได้รับแจ้งจากญาติที่เห็นภาพจากการไลน์สดคือ น.ส.พิมพร ศรีวงษา อายุ 31 ปี ชาวบ้านอำเภอวารินชำราบ ที่มีปัญหาทะเลาะกับแฟน และยังไม่กลับเข้าบ้าน  ทำให้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานสาเหตุการมาโดดสะพานเมื่อคืนก่อน และมีนักศึกษาหญิงเห็นเหตุการณ์ได้ถ่ายภาพขณะ น.ส.พิมพร กระโดดลงจากสะพานเกิดจากปัญหาส่วนตัว จึงให้หน่วยกู้ภัยมูลนิธิการกุศลจีตัมเกาะอุบลราชธานี นำร่างส่งให้แพทย์แผนกนิติเวชโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ผ่าพิสูจน์ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต ก่อนจะมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี  ลงเครดิตคลิปภาพหญิงสูงวัยลอยคอ นายสุวรรณชัย ทาระเกต เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิการกุศลจีตัมเกาะอุบลราชธานี

ด้าน พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรมากเกิดจากปัญหาส่วนตัว ทั้ง 2 ราย จึงต้องลงมาดูว่ามีส่วนไหนที่เกี่ยวข้องกับหน้างานที่รับผิดชอบหรือไม่ อย่างน้อยในสถานการณ์ตอนนี้อาจะส่งผลในหลายด้านทั้งครอบครัว จิตใจ  จำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบเข้าเหตุให้เร็วที่สุดเพราะจะได้ป้องกันการสูญเสีย จากหนักให้เป็นเบา  หรือเบาให้ไม่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เหตุการณ์กระโดดน้ำฆ่าตัวตายบนสะพานดังกล่าวมีอยู่บ่อยครั้งและชาวบ้านละแวกข้างเคียงสะพานมองตามความเชื่อส่วนตัวว่าน่าจะเป็นการหาตัวตายตัวแทน ของวิญญาณโดย 2 เคสวันนี้เป็นหญิงทั้งคู่มีความคล้ายคลึงกันทั้งเรื่องปัญหาส่วนตัว การแต่งกายที่บังเอิญใส่เสื้อสีแดงเลือดหมู กางเกงขายาวสีดำทั้ง 2 คน

ข่าวโดย - เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงค์