สาธารณรัฐเช็กต้องทิ้งวัคซีนแอสตราเซเนกา คนไม่นิยม
มีคนสมัครใจใช้แค่ไม่กี่พันโดส ทำให้หลายหมื่นโดสจะหมดอายุโดยไม่ถูกใช้ เหตุเพราะรัฐบาลแนะนำให้ฉีดให้แต่ผู้สูงอายุ ขณะที่จะเอาไปบริจาคก็ไม่ได้ เพราะมีกฏหมายกำกับ
สาธารณรัฐเช็กอาจต้องกำจัดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้าหลายหมื่นโดส เนื่องจากวัคซีนจะหมดอายุในเดือนหน้า ขณะที่ความต้องการวัคซีนตัวนี้ ซึ่งแนะนำสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปียังคงอยู่ในระดับที่ต่ำมาก เนื่องจากปัญหาความวิตกกังวลเรื่องผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
สถานีวิทยุ IROZHLAS ของสาธารณรัฐเช็กรายงานว่า วัคซีนประมาณ 55,000 โดสที่ผลิตโดยบริษัทแอสตร้าเซเนก้า และถูกส่งมายังสาธารณรัฐเช็กจะหมดอายุลงในปลายเดือนตุลาคม ในขณะที่คาดว่าวัคซีนจำนวน 10,000 ตัว จะถูกใช้สำหรับการฉีดโดสที่ 2 แต่ที่เหลืออาจต้องถูกเผาทิ้งทั้งหมด หากความต้องการวัคซีนยังไม่มีการพุ่งขึ้น
และจนถึงตอนนี้ ความต้องการวัคซีนตัวนี้ ก็น้อยมาก ๆ ตามข้อมูลที่อ้างถึงในรายงาน มีเพียง 36 คนเท่านั้นที่เลือกวัคซีนตัวนี้สำหรับการฉีดโดสแรกในเดือนกันยายน และจนถึงขณะนี้มีประชาชนแค่ 774 คนเท่านั้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนตัวนี้
ในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม มีเพียงคนที่ได้รับวัคซีนใหม่ประมาณ 1,200 คนเท่านั้นที่เลือกรับวัคซีนของแอสตร้าเซเนกา ซึ่งเป็นเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ของผู้คนจำนวน 860,000 คนที่ขอรับวัคซีนโดสแรกในระยะเวลาดังกล่าว
สื่อของเช็กรายงานว่า วัคซีนของแอสตร้าเซเนกามากกว่า 14,000 โดสถูกทิ้งเมื่อเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ได้รับความสนใจจากสาธารณชน
การไม่ได้รับความนิยมของมัน มองกันว่า เกิดจากการที่ตั้งแต่เดือนมิถุนายน กระทรวงสาธารณสุขของสาธารณรัฐเช็กได้แนะนำวัคซีนแอสตร้าเซเนกาและจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีเท่านั้น หลังจากสงสัยว่าวัคซีนก่อให้เกิดลิ่มเลือดที่อาจทำให้ตายได้ในคนวัยหนุ่มสาวบางคนหลังได้รับวัคซีน แม้ว่ากรณีแบบนี้จะเกิดขึ้นน้อย แต่หลายประเทศรวมถึงสาธารณรัฐเช็ก ก็จำกัดหรือหยุดการใช้วัคซีนตัวนี้
โฆษกกระทรวงสาธารณสุขของสาธารณรัฐเช็กบอกว่ารัฐบาลไม่คาดหวังว่าจะใช้วัคซีนปริมาณที่ค้างอยู่ให้หมดก่อนหมดอายุ และในขณะที่ประเทศได้บริจาควัคซีน แอสตร้าเซเนกามากกว่า 200,000 โดสให้กับประเทศอื่น ๆ เมื่อเร็วๆ นี้ แต่คราวนี้ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากอุปสรรคทางกฎหมาย
ปัญหาคือวัคซีนเหล่านี้กระจัดกระจายไปทั่วประเทศแล้ว “กฎหมายไม่อนุญาตให้เราบริจาควัคซีนเหล่านี้ เนื่องจากทันทีที่วัคซีนถูกนำออกจากห่วงโซ่การจัดจำหน่ายที่มีการควบคุม วัคซีนเหล่านี้จะต้องถูกนำไปใช้ พวกมันไม่สามารถถูกส่งต่อได้”
จนถึงปัจจุบัน 55% ของประชากรที่มีสิทธิ์ ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว ในขณะที่ทางการกำหนดอัตราเป้าหมายการฉีดวัคซีนที่ 75%
