ชาวกรุงปร๊ากร่วมฉลองการสิ้นสุดมาตรการล็อคดาวน์เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ด้วยการจัดโต๊ะดินเนอร์ต่อกันยาวเหยียดถึง 500 เมตร บนถนน และสะพาน "ชาร์ลส บริดจ์" อันเลื่องชื่อ หลังจากรัฐบาลคลายข้อจำกัดการจัดการชุมนุมขนาดใหญ่ หลังจากเป็นหนึ่งในประเทศที่รีบล็อคดาวน์ตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดทั่วโลก และเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ อีกเช่นกัน ที่ขอบอกให้พลเมืองสวมหน้ากากอนามัย ที่ช่วยหลีกเลี่ยงการระบาดที่รุนแรงที่สุด และตอนนี้ ได้กลายเป็นประเทศที่ปลดล็อคดาวน์ก่อนอีกหลายประเทศ เพียงแต่เช็ค ยังคงไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติข้ามพรมแดนเข้าไปเท่านั้น
ภาพที่เผยแพร่แสดงให้เห็นผู้คนนั่งใกล้กันเต็มสองฝั่งของโต๊ะยาว รับประทานอาหารและเครื่องดื่ม และไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย ส่วนการรับมือโควิด-19 ในประเทศ พบว่ามีผู้ติดเชื้อราว 12,000 คน และเสียชีวิต 349 คน โดยอ้างอิงตัวเลขของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปสกินส์ ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับบางประเทศในยุโรปด้วยกัน
การฉลองนี้ยังเกิดขึ้นในขณะที่สหภาพยุโรป หรือ อียู เตรียมอนุญาตให้นักเดินทางจาก 14 ประเทศ เข้าประเทศสมาชิกได้ รวมทั้งประเทศไทย ส่วนสหรัฐฯ ยังไม่ได้รับอนุญาตตามความคาดหมาย เนื่องจากอัตราของผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตยังไม่เข้าเกณฑ์ประเทศที่ปลอดภัยของอียู