11 กันยายน 2564 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการประชุมชี้แจงแนวทางกระจายชุดตรวจ Antigen test kit (ATK) เพื่อแจกประชาชน และการจ่ายชดเชยค่าบริการสำหรับหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพ วันที่ 10 ก.ย. 2564 โดยระบุว่า ขณะนี้โหมดในการใช้ชีวิตของคนไทยคือ Living with COVID หรือการใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19 ดังนั้นสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขจะทำมี 3 เรื่องใหญ่ๆ คือ
“ต้องขอบคุณ สปสช.ที่สนับสนุนให้ประชาชนมีชุดตรวจ ATK ที่สามารถใช้เองได้ ดังนั้น ATK 8.5 ล้านชิ้นนี้ต้องฝากทุกจังหวัด ในการกระจายและให้ประชาชนได้ทำการตรวจด้วยตัวเอง โดยให้ อสม.ช่วยในการกระจายชุดตรวจและสอนวิธีการใช้” นพ.ธงชัย กล่าว
นพ.ธงชัย เน้นย้ำด้วยว่า ขอให้หน่วยบริการที่กระจายชุดตรวจในแต่ละพื้นที่ จัดทำแนวทางการปฏิบัติให้ชัดเจนว่าถ้าผลตรวจ โควิด-19 เป็นบวกแล้วต้องทำอย่างไร ติดต่อที่ไหน ให้มาหาที่โรงพยาบาลหรือโทรมาก่อนแล้วโรงพยาบาลไปรับ โดยให้จัดทำแนวทางตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งพิมพ์สติ๊กเกอร์พร้อมหมายเลขติดต่อหน่วยบริการติดไว้ที่กล่อง ATK หรืออาจพิมพ์แนวทางการปฏิบัติใส่ซองไปพร้อมๆกันก็ได้
“เมื่อกระจายชุดตรวจลงไปแล้วขอให้วางแนวปฏิบัติให้ชัดเจน โดยประชาชนต้องได้รับการดูแลที่ถูกต้องรวดเร็วและไม่มีการปฏิเสธไม่ว่าจะตรวจด้วย ATK จากโครงการนี้หรือไปซื้อมาตรวจเองก็ตาม ถ้าอาการไม่หนักก็แนะนำให้ทำ Home Isolation แต่ถ้าจะรับเข้าโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาล ต้องทำ RT-PCR ก่อน” นพ.ธงชัย กล่าว
นพ.ธงชัย กล่าวย้ำเพิ่มเติมว่า ในการแจก ATK นั้น ขอให้เจ้าหน้าที่มีการสอบถามเบื้องต้นก่อนว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ไม่ใช่ใครมาขอก็ให้หมด ขอให้เน้นกลุ่มเสี่ยงที่มาจากพื้นที่ที่มีการระบาด คนในครอบครัวในชุมชนมีผู้ป่วย รวมทั้งกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในในตลาด โดยหากตรวจครั้งแรกแล้วไม่เจอ ให้แนะนำว่าอย่าเพิ่งวางใจ อีก 4-5 วันให้ตรวจ โควิด-19 ซ้ำอีกครั้งหรือตรวจทันทีที่มีอาการไม่สบาย
นพ.อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า คาดว่าชุดตรวจ ATK จะกระจายไปยังหน่วยบริการต่างๆได้ในสัปดาห์หน้าและเริ่มลงทะเบียนรับชุดตรวจได้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป ซึ่งในจำนวนชุดตรวจ 8.5 ล้านชุด จะกระจายในเบื้องต้น 96% แบ่งเป็น กทม. 2.5 ล้านชุด เขตสุขภาพที่ 1-12 อีกประมาณ 5 ล้านชุด หน่วยบริการในสังกัดกรมอนามัยอีก 4 แสนชุด ส่วนชุดตรวจที่เหลือจะเป็นส่วนที่สำรองไว้
นพ.อภิชาติ กล่าวว่า ในพื้นที่ กทม. จะบริหารจัดการโดยสำนักอนามัยของ กทม. กระจายไปยังศูนย์บริการสาธารณสุข แล้วศูนย์บริการสาธารณสุข มอบต่อให้ผู้นำชุมชนหรืออาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) นำไปกระจายให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเน้นชุมชนแออัด ตลาด ร้านเสริมสวย สปา โรงเรียน และกลุ่มที่เกี่ยวกับบริการสาธารณะ
นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถขอรับได้ที่คลินิกชุมชนอบอุ่นและร้านยาที่เข้าร่วมกับโครงการของ สปสช. โดยลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง
ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดจะกระจายชุดตรวจ ATK ไปยังโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยมี อสม. และจิตอาสา กระจายชุดตรวจให้กลุ่มเสี่ยงที่บ้าน ขณะเดียวกันประชาชนก็ยังขอรับชุดตรวจที่คลินิกชุมชนอบอุ่นและร้านยาที่เข้าร่วมโครงการในต่างจังหวัด ผ่านการลงทะเบียนผ่านแอปฯเป๋าตังได้เช่นกัน