จีนได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลืออัฟกานิสถานเป็นมูลค่า 200 ล้านหยวน หรือกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ ก็รวมถึงการช่วยเหลือด้านอาหารและวัคซีนต้านไวรัสโคโรน่า
การเสนอความช่วยเหลือดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ปักกิ่งบอกว่าพร้อมที่จะติดต่อสื่อสารกับรัฐบาลตาลีบันต่อไป
พร้อมกับเสริมว่าการจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวใหม่เป็น "ขั้นตอนที่จำเป็นในการฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย" ในอัฟกานิสถาน
คณะรัฐมนตรีชั่วคราวของตาลีบันได้รับการประกาศเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมกันกับที่ประเทศถูกประกาศให้เป็น "รัฐอิสลาม"
ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ บอกว่า "หนทางยังอีกยาวไกล" กว่าที่สหรัฐจะยอมรับรัฐบาลตาลีบัน
ในขณะเดียวกันจีนก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว
หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ประกาศมาตรการช่วยเหลืออัฟกานิสถานในการประชุมเมื่อวันพุธ กับเพื่อนบ้านของอัฟกานิสถานหลายประเทศได้แก่ ปากีสถาน , อิหร่าน , ทาจิกิสถาน , อุซเบกิสถาน และเติร์กเมนิสถาน
เขาเรียกร้องให้ประเทศเหล่านี้ร่วมมือกันช่วยเหลืออัฟกานิสถาน โดยเสริมว่าจีนจะจัดหาวัคซีน 3 ล้านโดสให้กับประเทศ
จีนยังวิพากษ์วิจารณ์การถอนตัวของสหรัฐฯ อีกด้วย โดยกล่าวว่ากองทหารสหรัฐได้ " สร้างความหายนะ" ในอัฟกานิสถาน
ขณะที่หวัง เหวิน บิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศบอกว่า สหรัฐฯ ได้สร้าง "ความเสียหายร้ายแรงต่อชาวอัฟกันตั้งแต่วันแรกของการบุก จนถึงนาทีสุดท้ายของการถอนทหาร"
“สิ่งที่สหรัฐฯ ทำในอัฟกานิสถานในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา เป็นตัวอย่างในหนังสือเรียนที่แสดงให้เห็นผลที่ตามมาของการแทรกแซงทางทหารอย่างป่าเถื่อน และความพยายามที่จะกำหนดอุดมการณ์และค่านิยมของตนเองให้กับผู้อื่น”
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตาลีบันหลายคน ได้พูดถึงจีนว่าเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของอัฟกานิสถาน และได้ตั้งความหวังในการลงทุนของจีน และการสนับสนุนการสร้างประเทศที่ถูกทำลายจากสงครามขึ้นมาใหม่
ด้านปักกิ่งก็ได้พยายามอย่างจริงจังที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มตาลีบัน
แม้กระทั่งก่อนที่กลุ่มตาลีบันจะเข้าครองอำนาจในอัฟกานิสถาน จีนได้เชิญตัวแทนของกลุ่มมาพูดคุยในเดือนกรกฎาคม ได้เสนอให้การสนับสนุนทางเศรษฐกิจแก่อัฟกานิสถาน แต่ก็เน้นว่าประเทศนี้ไม่ควรถูกใช้เป็นจุดรวมตัวของผู้ก่อการร้าย