ชาวอเมริกันยอมลาออก หากนายจ้างบังคับฉีดวัคซีน

ผลสำรวจที่จัดทำโดยหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์และสถานีโทรทัศน์เอบีซี นิวส์ ได้สอบถามว่า พนักงานที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน โควิด-19 จะทำอย่างไร หากนายจ้างกำหนดให้ต้องฉีดวัคซีนจึงจะสามารถเข้าสำนักงานได้ และผู้ตอบคำถาม 16% บอกว่าจะเข้ารับการฉีด, อีก 35% บอกว่าจะขอได้รับการยกเว้นด้วยเหตุผลทางการแพทย์หรือศาสนา และ 42% บอกว่า จะลาออก

นอกจากนี้เมื่อถามว่า หากพวกเขาไม่ได้รับยกเว้นเรื่องการฉีดวัคซีนจะทำอย่างไร
ผู้ตอบคำถาม 18% บอกว่าจะยอมทำตามข้อบังคับ แต่ 72% บอกว่า จะลาออกจากงาน 

แต่มีผู้ตอบคำถามเพียง 18% บอกว่านายจ้างกำหนดให้พนักงานต้องฉีดวัคซีน และเกือบ 30% บอกว่ายังไม่ได้รับวัคซีนและนายจ้างไม่ได้บังคับให้ต้องฉีดวัคซีน

อย่างไรก็ตามผลสำรวจพบว่าผู้ตอบคำถามมากถึง 52% สนับสนุนให้นายจ้างกำหนดให้พนักงานที่จะเข้าสำนักงานต้องฉีดวัคซีน และ 44% คัดค้าน 

ผลสำรวจนี้สอบถามชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 1,066 คน ช่วงวันที่ 20 ส.ค.-1 ก.ย. ในขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่หลายราย ทยอยออกข้อกำหนดให้พนักงานต้องฉีดวัคซีนก่อนเข้าทำงานในสำนักงาน และธุรกิจอีกจำนวนมากจะใช้มาตรการเดียวกัน หลังจากวัคซีนของบริษัท ไฟเซอร์ และบริษัท ไบโอเอ็นเทค ได้รับอนุญาตจากสำนักงานอาหารและยาให้สามารถใช้ได้ทั่วไปอย่างกว้างขวางแล้ว ส่วนผลสำรวจก่อนหน้านี้จากการสอบถามนายจ้าง 961 ราย ในสหรัฐฯ ที่จ้างพนักงานเกือบ 10 ล้านคน พบว่าบริษัทเกือบ 52%  จะกำหนดให้พนักงานต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสภายในไตรมาส 4 ของปีนี้