ผกก.โจ้ นอนคุกต่อ หลังยื่นศาลฝากขังครั้งที่ 2 แต่ไร้ญาติยื่นประกัน

วันนี้ (7 ก.ย.) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง  พนักงานสืบสวนสอบสวน ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 2 พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์  และ ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา อายุ 55 ปี อดีต รอง สวป. สภ.เมืองนครสวรรค์ ตามคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาศาลจังหวัดนครสวรรค์ (แทนศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6) ที่อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนมีกำหนด 12 วัน ซึ่งจะครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาในวันนี้

แต่เนื่องจากยังต้องสอบสวนปากคำพยานอีก 20 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษ รอผลการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นระหว่างผู้ต้องหาและผู้ตายในที่เกิดเหตุ อีกทั้งรอผลการตรวจเปรียบเทียบลายนิ้วมือแฝงระหว่างผู้ต้องหาและผู้ตายในที่เกิดเหตุ รอผลการตรวจพิสูจน์คลิปวิดีโอในสถานที่เกิดเหตุจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จากกองพิสูจน์หลักฐาน รอผลการไต่สวนในคดีชันสูตรพลิกศพ จึงขอศาลอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนต่อไปอีก มีกำหนด 12 วัน นับแต่วันที่ 8-19 ก.ย. 

เนื้อหาในคำร้องฝากขังครั้งนี้ยังระบุว่า ผบ.ตร. เห็นว่า ผู้ต้องหาเป็นตำรวจสังกัด สภ.เมืองนครสวรรค์ ท้องที่เกิดเหตุ กระทำความผิดอาญา มีพฤติการณ์ร้ายแรง เป็นคดีอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญเป็นที่สนใจของประชาชน จึงอนุมัติให้โอนสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวจาก สภ.เมืองนครสวรรค์มายังกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) กรุงเทพฯ ซึ่งต่อมาวันที่ 1 ก.ย. พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ขอโอนการฝากขังมายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และขอโอนตัวผู้ต้องหาจากเรือนจำกลางพิษณุโลกไปคุมขังระหว่างสอบสวนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6​ ได้อนุญาตแล้ว ขณะนี้ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐาน

โดยศาลอาญาคดีทุจริตฯ​ พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าเนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นจึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังหมดเวลาทำการศาลฯ​ ไม่ปรากฏว่ามีญาติหรือทนายความของผู้ต้องหาทั้ง 2 มายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว แต่อย่างใด