ปิดตลาดใหญ่เมืองคอนอีกระลอก ผู้ค้าระส่ำผลกระทบต่อเนื่องหนัก

5 กันยายน 2564 ที่ จ.นครศรีธรรมราช ตลาดสดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช หรือที่รู้จักในชื่อ “ตลาดสดคูขวาง”ซึ่งเป็นตลาดสดที่ใหญ่สุดของย่านการค้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช ที่เป็นแหล่งวัตถุดิบของผู้ประกอบการร้านอาหาร และการจับจ่ายอาหารสดในชีวิตประจำวันของชาวเมืองนครศรีธรรมราช ต้องปิดทำการอีกครั้งเป็นระลอกที่ 2 หลังจากระลอกแรกปิดทำการไปถึง 14 วัน โดยระลอกนี้ นายกณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้มีคำสั่งปิดอีกครั้งในระหว่างวันที่ 6-13 กันยายน 2564 เป็นเวลา 7 วันหลังจากพบคลัสเตอร์ตลาดสดคูขวางที่แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมโรคได้เนื่องจากผู้ติดเชื้อมีการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างตลาดอีกหลายแห่ง การปิดตลาดในระลอกนี้ทำให้ผู้ค้าภายในตลาดคูขวางสะท้อนถึงผลกระทบที่ได้รับ

นางลฎาภา เฮ้งศิริ ผู้ค้าเนื้อหมูสดเปิดเผยว่า การปิดตลาดทำให้เกิดผลกระทบที่ตามมาเยอะโดยเฉพาะการแบกรับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นและไม่มีรายได้เข้ามาทั้งค่าบ้าน ค่าแผง และลูกน้องที่ทำงานเป็นรายวันขาดรายได้ไม่มีรายได้เข้ามายิ่งลำบากไปอีก ยอมรับว่าไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร แต่การปิดตลาดอย่างเดียวนั้นเชื่อว่าไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาได้ไม่ใช่การแก้ปัญหาอีกแล้ว เพราะดูเหมือนว่าจะซ้ำซากเมื่อปิดแล้วเปิดใหม่ก็ติดเชื้อกันอีก และเมื่อปิดเช่นนี้ผู้ซื้อผู้ขายที่ยังต้องทำธุรกิจก็ต้องวิ่งไปซื้อในตลาดอีกก็ยิ่งทำให้ติดเชื้อ กระจายเชื้อไปที่อื่นอีก

เช่นเดียวกับนางสาวพัชรินทร์ เจียมสวัสดิ์ ผู้ค้าดอกไม้สดในตลาดเธอยืนยันว่าเหตุที่มีการติดเชื้อนั้นเพราะการติดเชื้อจากผู้ค้าผู้ซื้อขาจรที่รับสินค้ามาจากที่อื่นแล้วมาขายที่นี่ และเชื่อว่าตลาดคูขวางไม่ใช่แหล่งแพร่เชื้อ เนื่องจากเธอเองอยู่ในตลาดแห่งนี้ตั้งแต่เช้าจนค่ำทุกวันไม่เคยติดเชื้อ และมั่นใจว่ามีการทำความสะอาดทุกวัน ทั้งยังมาตรการฆ่าเชื้อทุกสัปดาห์ ส่วนที่มีการติดเชื้อนั้นเกิดจากกลุ่มแม่ค้าพ่อค้าขาจร ลุ่มที่ติดเชื้อไปรับเชื้อมาจากที่อื่นแล้วมาแพร่นี่อาจเป็นต้นเหตุสำคัญ

อย่างไรก็ตามในส่วนของตลาดสดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช หรือตลาดสดคูขวาง เป็นที่น่าสังเกตว่าหลังจากที่ผู้ค้าเริ่มทยอยเก็บสินค้า หรือในช่วงตลาดวายเจ้าหน้าที่จะเข้าฉีดล้างทำความสะอาดทั่วทั้งพื้นที่ทุกซอกมุม ส่วนกลุ่มผู้ค้าในตลาดได้เร่งกระจายสินค้าออกเนื่องจากตลาดจะปิดทำการอีก 7 วันตามมาตรการควบคุมโรค.

ภาพ/ข่าว โดย :
กฤษณะ ทิวัตถ์สิริกุล  จ.นครศรีธรรมราช