แม้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจจบไปแล้ว คะแนนเสียงในสภาฯ ให้นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 5 รัฐมนตรี ไปต่อ แต่ ความคลางแคลงสงสัยของประชาชนถึงความไม่โปร่งใสของการซื้อวัคซีนซิโนแวค ตามที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อภิปรายเมื่อวันที่ 31 ส.ค.64 โดยเปิดข้อมูลว่า การจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค มีส่วนต่างระหว่างราคาที่คณะรัฐมนตรี อนุมัติกับราคาซื้อจริงที่ซิโนแวคขาย เป็นเงินมากกว่า 2,000 ล้านบาท
นายประเสริฐ อ้างหลักฐานที่เขาได้รับมาจาก 2 แหล่ง คือ ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข และเอกสารบันทึกการประชุมของคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า รัฐบาลไทยซื้อวัคซีนซิโนแวค แล้ว 18.5 ล้านโดส และที่กำลังจะซื้ออีก 12 ล้านโดส
การซื้อวัคซีน 18.5 ล้านโดส นั้น แบ่งเป็น การซื้อ
ครั้งที่ 1 จำนวน 2 ล้านโดส ราคาโดสละ 17 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 556.24 บาท เป็นราคาที่สูงกว่าที่ประเทศอื่นซื้อ อย่างอินโดนีเซีย ซื้อโดสละ 460 บาท บราซิลซื้อโดสละ 337 บาท
การซื้อครั้งที่ 2 จำนวน 7.5 ล้านโดส คณะรัฐมนตรีอนุมัติซื้อในราคา 17 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ราคาที่ซิโนแวคขายให้จริงคือโดสละ 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ
การซื้อครั้งที่ 3 จำนวน 6 ล้านโดส คณะรัฐมนตรีอนุมัติซื้อในราคา 17 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ราคาที่ซิโนแวคขายจริงโดสละ 14 ดอลลาร์สหรัฐฯ
การซื้อครั้งที่ 4 จำนวน 2 ล้านโดส คณะรัฐมนตรีอนุมัติซื้อในราคา 17 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ราคาที่ซิโนแวคขายให้จริงคือโดสละ 9.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ
การซื้อครั้งที่ 5 จำนวน 1 ล้านโดส คณะรัฐมนตรีอนุมัติซื้อในราคา 17 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ราคาที่ซิโนแวคขายให้จริงคือโดสละ 9 ดอลลาร์สหรัฐฯ
เมื่อนำราคาตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ 331,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 10,846 ล้านบาท ลบราคาซื้อจริงที่บริษัทซิโนแวคขายให้ 267,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 8,748 ล้านบาท เท่ากับมีส่วนต่างประมาณ 2,098 ล้านบาท
จากจำนวนวัคซีนที่รัฐบาลซื้อเข้ามามากขึ้นๆ แบบค้านสายตา แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ฟังและไม่ได้หยุดสั่งซื้อ เท่าเป็นการยืนยันความคลางแคลงใจสงสัยของประชาชนว่ารัฐบาลโปร่งใสมากเพียงใด