svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ไม่สวมแมสก์ หัวร้อนวีนแตกใส่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจ

02 กันยายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คนขับซึ่งเป็นได้เปิดกระจกประตูลงมา แต่ไม่สวมแมสก์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบอกให้ใส่แมสก์ เพื่อจะขอทำการตรวจค้น แต่คนขับกลับแสดงอาการไม่พอใจใส่เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ด้วยการตะโกนเสียงดังว่าจะใส่ทำไม

ที่ จ.สุพรรณบุรี นายธรรศ ศรีดุษฎี ปลัดอำเภอ หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี นายทรงวุฒิ เพ็งพันธุ์ จ่ากองร้อย บก.บร.บก.อส นำกำลัง อาสาสมัครรักษาดินแดน กำลัง อส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ออกปฏิบัติการลาดตระเวนป้องกันปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยป้องกันผู้ที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย ตามนโยบายของนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี โดยตั้งจุดตรวจที่บริเวณสามแยกไฟแดงโพธิ์พระยา-ศรีประจันต์สายเก่า  ตำบลโพธิ์พระยา อำเภอเมืองสุพรรณบุรี

ไม่สวมแมสก์ หัวร้อนวีนแตกใส่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจ ไม่สวมแมสก์ หัวร้อนวีนแตกใส่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจ

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจนั้น เป็นช่วงใกล้เวลาเคอร์ฟิว มีประชาชนทั้งที่กลับจากการทำงานในตัวเมืองสุพรรณบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งเกษตรกรชาวไร่ชาวนา พากันขับขี่รถยนต์จักรยานยนต์กลับบ้าน เมื่อเจอด่านตรวจส่วนมากต่างก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเป็นเป็นอย่างดีแต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้มีรถเก๋งสีขาวยี่ห้อมาสด้า ทะเบียน 7 กก 8331 กรุงเทพมหานคร ขับมาด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้รถหยุดเข้าจอดข้างทาง เพื่อขอตรวจค้นตามปกติ แต่คนขับซึ่งเป็นสาวสองได้เปิดกระจกประตูลงมา แต่ไม่สวมแมสก์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบอกให้ใส่แมสก์ เพื่อจะขอทำการตรวจค้น แต่คนขับกลับแสดงอาการไม่พอใจใส่เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ด้วยการตะโกนเสียงดังว่าจะใส่ทำไม กูอยู่ในรถ จะตรวจหาอะไรอีก 10 นาที จะสามทุ่ม จะตรวจอะไรก็มาตรวจจะรีบกลับบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่บอกว่าทำไมต้องดุตำรวจตอบกลับว่าไม่ได้ดุแต่ไม่ชอบรำคาญ พร้อมกับจ้องมองเจ้าหน้าที่ด้วยสายตาที่ดุดัน ปานจะกินเลือดกินเนื้อของเจ้าหน้าที่

เจ้าหน้าที่พยายามใจเย็น อธิบายให้ฟังว่า เจ้าหน้าที่ทำตามหน้าที่แต่สาวสอง ยังตะโกนใส่อีกด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถ เจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่ได้ตรวจ สาวสองตะโกนออกมาใส่เจ้าหน้าที่ว่า จะตรวจหาอะไรก็รีบตรวจ ซึ่งระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่กำลังตรวจอยู่ พร้อมบอกให้สาวสองใจเย็นๆ แต่สาวสองก็ยังไม่ยอมกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่เบ่ง หาว่าตนไม่ใส่แมสก์ แต่ใช้ถ้อยคำว่ากูลงมากูก็ใส่แมสก์นี่ไง แต่ใส่ใต้คาง

ไม่สวมแมสก์ หัวร้อนวีนแตกใส่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจ  

รายนี้ยังตะคอกใส่เจ้าหน้าที่อีกว่า สักแต่จะด่าทั้งที่เจ้าหน้าที่ทุกคนยังไม่มีใครว่าอะไรเลย มีแต่บอกให้ใจเย็น และถามสาวสองว่า การที่เจ้าหน้าที่บอกให้ใส่แมสก์เป็นการด่าตรงไหน สาวสองสวนกลับมาว่าถ้ามีความรู้ จะรู้ว่าบริบทคืออะไรไม่อยากจะพูด แต่บอกเจ้าหน้าที่ว่าไม่ได้ด่าคุณนะ  เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจแล้วไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงอนุญาตให้กลับ แต่ก่อนจะขับรถออกไป บอกให้เจ้าหน้าที่จำทะเบียนรถไว้ด้วย เจ้าหน้าที่ถามกลับว่าจำทะเบียนทำไม สาวสองสวนกลับทันทีว่า กูด่าเก่ง ก่อนจะขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว จนน่ากลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้น

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อจนดึก ได้มีวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 17-50 ปี มีทั้งหญิงและชาย และสาวทอมขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่เมื่อตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติดในร่างกาย และสุดท้ายได้มีสามีภรรยา ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างบรรทุกของเก่าเต็มคันผ่านมา จึงเรียกตรวจ พบยาบ้า 10 เม็ด อยู่ในซองพลาสติกซ่อนอยู่ในสมุดพับ และอีก1 เม็ด ซ่อนอยู่ในลำกล้องปืนบีบีกัน เมื่อตรวจปัสสาวะคนเป็นสามีพบว่าเป็นสีม่วงส่วนภรรยาตรวจแล้วไม่พบ เจ้าหน้าที่จึงบันทึกทำประวัติวัยรุ่นและผู้ที่เสพยาเสพติดทั้งหมดนับ 10 รายไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำเข้าสู่กระบวนบำบัดรักษาตามขั้นตอนส่วนชายเก็บของเก่าที่ตรวจพบยาบ้า 11 เม็ด ก็จะดำเนินการตมขั้นตอนกฎหมายแต่ก่อนที่จะปล่อยตัวทั้งหมดกลับบ้านสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการให้วิดพื้นและทำสก๊อตจั๊ม เป็นการทำโทษเบื้องต้น และปลัดอำเภอได้ว่ากล่าวตักเตือนให้ข้อคิดกับทุกคนให้ปฏิบัติตัวอยู่ในกฎระเบียบของกฎหมาย และปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19

ไม่สวมแมสก์ หัวร้อนวีนแตกใส่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจ ไม่สวมแมสก์ หัวร้อนวีนแตกใส่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจ

 

ข่าวโดย  มงคล สว่างศรี

logoline