ผบช.น. สั่งล่าตัวมือปืนที่ปรากฎตัวในม็อบดินแดง
ผบช.น. สั่งล่าตัวมือปืนวัยรุ่นที่ปรากฎตัวในม็อบแยกดินแดง พร้อมแจงปมรถจีโน่ใช้น้ำสีฉีดใส่ม็อบ เผยหลังจากนี้ตำรวจจะใช้น้ำเป็นหลักและใช้แก๊สน้อยลง
วันนี้ (30 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. แถลงถึงเหตุชุมนุมเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา (อ่านต่อรายละเอียด) ว่า มีการชุมนุม 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มไทยไม่ทน กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน กลุ่มก่อความวุ่นวายบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ซึ่งสืบทราบว่าจะมีการนำอาวุธเข้าไปก่อเหตุความรุนแรงบริเวณดังกล่าว
โดยตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา 29 ราย เป็นเยาวชน 13 ราย ยึดของกลางรถจยย. 11 คัน พร้อมระเบิดแสวงเครื่อง ลูกแก้ว พลุ เพลิง อาวุธมีดหลายรายการ และยังมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงระหว่างปฏิบัติงาน สามารถจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุได้ 2 ราย เป็นเยาวชน 1 ราย
ส่วนกรณีปรากฏภาพผู้ชุมนุมถืออาวุธปืนนั้น ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานติดตามตัว ส่วนจะเป็นอาวุธปืนเทียมหรือไม่ ต้องรอผลการจับกุม ย้ำว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามยุทธวิธี และดำเนินการกรณีที่สมควรแก่เหตุจำเป็นต้องปฏิบัติ
สำหรับกรณีนักข่าวถูกลูกกระสุนยางนั้น ไม่ว่าจะเกิดเหตุอย่างไรก็รู้สึกเสียใจ จะต้องระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนวิธีการใช้แก๊สผสมสีนั้น เพื่อต้องการแยกกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากคนปกติ โดยการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เน้นการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้น้ำเป็นหลักและใช้แก๊สน้อยลง เนื่องจากต้องการไม่ให้เหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น
ส่วนกรณีตู้คอนเทรนเนอร์ตั้งวางนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้รื้อถอนออก แต่มีการชุมนุมหลายพื้นที่ จึงได้นำมาวางไว้เป็นแนวป้องกัน ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ จากทางการข่าวมีการนำอาวุธไปก่อเหตุรุนแรงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ทำให้เกิดเหตุรุนแรงน้อยที่สุดจึงจำเป็นต้องตั้งแบริเออร์หรือสิ่งกีดขวางบริเวณดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. กล่าวว่า วันนี้ที่มีการนัดหมายการชุมนุม 2 พื้นที่ ของกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกลุ่มทะลุแก๊สบริเวณแยกดินแดง แต่จากเมื่อวานทั้งช่วงบ่าย และช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ที่ก่อความวุ่นวายบริเวณแยกดินแดงได้ 29 ราย พร้อมของกลางเป็นระเบิดปิงปอง 100 กว่าลูก ระเบิดแสวงเครื่อง 30 ลูก ประทัดยักษ์ 56 ลูก พลุควัน 44 ลูก ลูกแก้ว 50 กว่าลูก พร้อมอาวุธมีด
“อีกทั้งยังพบขวดเครื่องดื่มชูกำลังที่มีการประดิษฐ์เป็นระเบิดเพลิง เพื่อวางเพลิงเผาทรัพย์นั้น ในสถานที่ราชการและ สถานที่ที่เป็นสาธารณะประโยชน์ โดยการกระทำดังกล่าวถือมีความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ ในกฏหมายอาญา ซึ่งขณะนี้มีการประสานกับ กรุงเทพมหานคร เพื่อขอรถ ดับเพลิง หากเกิดเหตุฉุกเฉิน กรณีมีการวางเพลิง ทั้งนี้การดำเนินคดีในห้วงกรกฎาคมจนถึงปัจจุบัน มีจำนวนคดีทั้งสิ้น 169 คดี ผู้ต้องหา 644 คน สามารถจับกุมได้ 374 ราย มีการออกหมายเรียกแล้ว 160 คนแบ่งเป็นแกนนำ 21 คนและผู้ชุมนุม 139 คน” รองผบช.น. กล่าว