เปิดโปงขบวนการ “ฟอกรถมาเลย์” ขยายต่อ รถหรู “ผกก.โจ้”

26 สิงหาคม 2564 รถหรูซูเปอร์คาร์ มีการลักลอบนำเข้า เป็นข่าวอยู่เป็นระยะ และเคยมีการจับกุม ตรวจยึดได้อย่างต่อเนื่อง แต่การจับล็อตใหญ่ๆ ต้องย้อนไปราวๆ ปี 56-57 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

เส้นทางของรถหรูข้ามแดน มาจากอัตราภาษีรถซูเปอร์คาร์ในมาเลเซีย ต่ำกว่าไทยมาก ทำให้ราคารถถูกกว่า บางคันถูกกว่าหลายล้านบาท จึงมี “คนหัวใส” วางแผนฟอกรถหรูที่ลักลอบข้ามแดน ให้เป็นรถถูกกฎหมาย แล้วฟันกำไร

วิธีการ คือให้โบรกเกอร์ฝั่งมาเลย์​ ติดต่อทำทีเช่ารถหรูจากฝั่งมาเลย์ หรืออาจจะสิงคโปร์ จากนั้นนำไปตัด GPS ติดตามรถออก แล้วให้นักบิน ซึ่งหมายถึงพวกรับจ้างขับ แอบนำรถออกตามด่านที่คนทั่วไปไม่ผ่านกัน แล้วข้ามเข้าเขตประเทศ​ไทย 

มีวิธีดำเนินการ 2 แบบ คือ

1.นำไปขายให้ลูกค้าเลย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะต้องมีเพาเวอร์มาก เพราะต้องนำรถไปสวมทะเบียน หรือผู้ครอบครองต้องเป็นผู้มีอิทธิพล เวลาถูกเรียกตรวจ ก็สามารถเคลียร์ได้

2.ขับรถเข้ามายังฝั่งไทย แล้วให้ตำรวจทำทีเป็นจับกุม ยึดรถส่งศุลกากร จากนั้นเมื่อศุลกากรเปิดประมูล ก็ให้เครือข่ายของตนเข้าประมูลในราคาถูก รถก็จะกลายเป็นรถถูกกฎหมาย นำไปขายต่อได้ ฟันกำไรคันละหลายล้านบาท แถมการจับกุมยังได้รางวัลนำจับอีกด้วย

เครือข่ายที่ทำเรื่องนี้ได้ เป็นเครือข่ายใหญ่ มีทั้งคนมีสี ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ศุลกากรร่วมมือกัน

เมื่อมีกรณี “ผู้กำกับโจ้” เป็นข่าวใหญ่ และมีภาพข่าวครอบครองรถหรู ทั้งยังมีข่าวบางแหล่งระบุว่า “ผู้กำกับโจ้” ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถหรูด้วย จึงมีข่าวบางกระแสพยายามเชื่อมโยงเรื่องนี้กับ “ผู้กำกับโจ้” เพราะสมัยที่เรียนจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นตำรวจหนุ่มไฟแรง หมวดโจ้ในวันนั้นบรรจุเข้ารับราชการที่แรกๆ ที่ สภ.โคกเคียน จังหวัดนราธิวาส ใกล้พรมแดนไทย-มาเลเซีย แต่ไม่มีใครยืนยันอย่างเป็นทางการว่าเขาเกี่ยวข้องกับ “เครือข่ายฟอกรถหรู” หรือไม่

“ทีมข่าวข้นคนข่าว” เดินทางไปที่ สภ.โคกเคียน และได้คุยกับตำรวจรุ่นเก่าๆ ที่ทำงานในโรงพักแห่งนี้มาได้ ได้รับคำยืนยันว่า ผู้กำกับโจ้ บรรจุที่ สภ.โคกเคียน เป็นรองสารวัตร  แต่ไม่ค่อยได้ทำงานที่โรงพัก เพราะไปอยู่กับชุดปราบปรามยาเสพติดของ ปส.บ้าง หรือชุดปราบปรามน้ำมันเถื่อนบ้าง เนื่องจากเป็นคนชอบงานลุยๆ แนวนี้ ส่วนงานที่ สภ.โคกเคียน ผู้กำกับโจ้มีชื่ออยู่ที่ สภ.นี้ประมาณ 1 ปีก็ย้ายออกไป