วันที่ 25 สิงหาคม 2564 กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ออกหนังสือชี้แจงผลการจับกุมผู้ต้องหาวางเพลิงทรัพย์สินทางราชการในช่วงการชุมนุมที่ผ่านมา จำนวน 2 คดี คือกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บก.สส.บช.น.) จับกุมมือเผารถยกใต้ทางด่วนดินแดง และผลการปฏิบัติงานของ สน.พญาไท ที่เข้าจับกุมคนร้ายเผาสถานีตำรวจส่วนแยก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
คดีแรก ตำรวจฝ่ายสืบสวน นครบาล เข้าจับกุมนายศักดิ์ดา อุดมศรี อายุ 18 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลอาญา ได้ที่หน้าบ้านพัก บริเวณซอยมอเตอร์เวย์ 14 แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ พร้อมใช้อำนาจตามหมายค้นของศาลอาญา เข้าตรวจค้นบ้านพักดังกล่าว พบของกลาง 4 รายการประกอบด้วย เสื้อเกราะกันกระสุนพร้อมแผ่นเหล็ก 1 ชุด เครื่องยิงหนังสติ๊ก 1 อัน ลูกแก้ว 50 ลูก ปลอกกระสุนยางพร้อมหัวกระสุน 2 นัด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา
นายศักดิ์ดา ให้การรับว่า ตนกับพวกเข้าร่วมชุมนุม บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยหลังการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ตนกับพวกได้ลงมือวางเพลิงรถยก ประจำ สน.ดินแดง ซึ่งจอดอยู่ใต้ทางด่วนดินแดงแล้วหลบหนี จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง
หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าว“ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง”พร้อมควบคุมตัวไว้เตรียมดำเนินคดีตามกฎหมาย
อีกคดี พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผู้กำกับการ(ผกก.)สน.พญาไท นำกำลังเข้าจับกุมเยาวชน ชื่อ นายตันติกร (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี และนายเกรียงไกร (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี ได้ที่ห้องพัก อพาร์ทเมนท์มาลีบลูเพลส ในซ.ปรีดีพนมยงค์ หลังสืบทราบว่า เยาวชนทั้ง 2 ราย ร่วมกันวางเพลิงเผา “สถานีตำรวจส่วนแยกอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” ของ สน.พญาไท ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
เมื่อตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท สามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและยานพาหนะของผู้ต้องสงสัย จึงยื่นพยาน หลักฐานที่รวบรวมได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ลงวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา
หลังการจับกุม ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา"ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น,มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง,ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด, และร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป