วันที่ 25 สิงหาคม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยผ่านรายการข่าวช่องหนึ่ง ภายหลังเซ็นคำสั่งให้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือผู้กำกับโจ้ ออกจากราชการไว้ก่อนว่า เป็นการเซ็นคำสั่งจากที่สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติเสนอขึ้นมาเป็นการเร่งด่วน พร้อมมีการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ส่วนผู้เกี่ยวข้องที่เหลือ จะต้องดูผลการสอบสวนชั้นต้น ประกอบพยานหลักฐานอื่นๆ ไม่ใช่แค่เพียงคลิปวิดิโอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“เบื้องต้นคดีอาญาอาจจะออกหมายจับด้วย โดยส่วนตัวได้พูดคุยกับทางพล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช.และทางพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร.ตลอด โดยยืนยันว่าจะทำให้เร็วที่สุด ภายในวันนี้จะต้องมีความชัดเจนแน่นอน ส่วนจะเป็นหมายจับใครบ้างขอให้รอดู”
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า ผกก.คนดังได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ ระบุว่า เรื่องข่าวก็เป็นข่าว แต่เรื่องนี้ขอบอกว่า ไม่มีใครจะไปปกป้องหรือช่วยใครได้ทั้งนั้น ถ้าหากหลบหนีจริงก็จะใช้ทุกอย่างที่มีติดตามจับตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ต้องเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะหากเอาไม่ได้ ความเชื่อมัน เชื่อถือก็จะไม่เกิดขึ้น จะเสียหายต่อภาพรวมทั้งหมด ส่วนคนอื่นๆ ทราบว่ายังอยู่ในพื้นที่ โดยกำชับให้ผู้บังคับการจังหวัดฯว่าให้คุยสอบปากคำ และทำความเข้าใจในฐานะที่ถูกสอบสวนก็อีกเรื่องหนึ่ง ”
พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า ขอให้สำนึกเรื่องผิดชอบชั่วดีบ้าง หากสำนึกไม่ได้ก็สำนึกในความเป็นมนุษย์ก็ยังดี ถ้าทำก็รับสารภาพ และรับโทษไป อย่างไรก็หนีไม่ได้อยู่แล้ว อย่างน้อยควรทำให้ได้เห็นว่ายังรู้สึกสำนึกอยู่บ้าง ส่วนใครที่ยังไม่ปรากฎตัวก็ต้องตามกลับมาให้หมด
“ยืนยันว่าไม่เคยคิดจะไปช่วยเหลืออะไรใครทั้งนั้น และที่บอกว่ามีจำนวน 13 นายนั้น เป็นเพียงตัวเลขชั้นต้น อาจจะมีมากกว่านี้ก็ได้ ต้องให้เวลาชุดสืบสวนสอบสวนทำงาน แต่ไม่ปล่อยให้คนผิดลอยนวลแน่นอน”
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าขณะนี้มีการออกหมายจับจำนวน 7 คน ไม่ใช่ 13 คน ซึ่งกำลังสืบว่ามีผู้เกี่ยวข้องที่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุอยู่ในห้องดังกล่าวเวลานั้นหรือไม่
ส่วนที่กระแสโซเชียลตั้งคำถามว่าหลบหนีไปประเทศลาวหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเรื่องดังกล่าว