svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

โผล่อีก นทท.ส่งหินที่แอบหยิบจากพนมรุ้ง ส่งพัสดุฝากจนท.นำกลับคืนที่เดิม

23 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โผล่อีกราย นทท.นำก้อนหินภูเขาไฟที่แอบหยิบจากปราสาทพนมรุ้งจ.บุรีรัมย์ บรรจุกล่องพัสดุพร้อมแนบ จม.เขียนด้วยลายมือส่งไปรษณีย์ฝาก จนท.นำกลับไปไว้ที่เดิม คาดนำไปเป็นเป็นของที่ระลึกหรือบูชา แต่กลัวอาถรรพ์ลี้ลับจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์

23 สิงหาคม 2564 เฟซบุ๊กของอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง (Phanom Rung Historical Park) ได้โพสต์  ข้อความว่า อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ได้รับพัสดุจากประชาชน ภายในพัสดุมีก้อนหิน (เป็นหินภูเขาไฟ) จากเขาพนมรุ้งพร้อมจดหมายเขียนข้อความว่า "ข้าพเจ้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอกราบขอขมาด้วยกาย วาจา ใจ  ขอคืนสู่อุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้ง ข้าพเจ้าเก็บตรงกลางทางขึ้นปราสาทนานแล้ว *เห็นข่าวตอนเช้า 18 ส.ค. 64 จึงนึกขึ้นได้ ขอคืนสู่พนมรุ้ง"   บัดนี้เจ้าหน้าที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ได้นำก้อนหินกลับสู่ปราสาทพนมรุ้งแล้ว    #โบราณสถานเป็นของทุกท่าน_โปรดช่วยกันดูแลรักษา #ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวไม่หยิบจับ_หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดออกจากโบราณสถาน #พนมรุ้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ 

โผล่อีก นทท.ส่งหินที่แอบหยิบจากพนมรุ้ง ส่งพัสดุฝากจนท.นำกลับคืนที่เดิม
               
ซึ่งก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นหลากหลาย  อาทิ  เคยเจอกับตัวเหมือนกันสามีพาลูกๆ ไปชมปราสาทพนมรุ้งแล้วเก็บก้อนหินโยนใส่รถพอเดินทางต่อเกิดอุบัติเหตุเลยนึกขึ้นได้ว่าแฟนเก็บก้อนหินบนปราสาทพนมรุ้งมาด้วย เลยไปขอขมาแล้วนำก้อนหินไปคืน  , บางคนบอกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ,  สิ่งใดอยู่ที่ใดย่อมกลับคืนสู่ที่เดิม” 

โผล่อีก นทท.ส่งหินที่แอบหยิบจากพนมรุ้ง ส่งพัสดุฝากจนท.นำกลับคืนที่เดิม
            

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง  เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว  ได้พบกับนายกฤษณพงษ์  พูนสวัสดิ์ นักโบราณคดี  อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง  ก็ให้ข้อมูลว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา  ได้รับพัสดุจากนักท่องเที่ยวรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชายอยู่ต่างจังหวัด  ข้างในกล่องพัสดุก็จะเป็นก้อนหินภูเขาไฟ ขนาดประมาณ 2 นิ้วจำนวน 1 ก้อน และมีจดหมายเป็นแผ่นกระดาษที่เขียนด้วยลายมือ  ระบุข้อความว่า "ข้าพเจ้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอกราบขอขมาด้วยกาย วาจา ใจ  ขอคืนสู่อุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้ง ข้าพเจ้าเก็บตรงกลางทางขึ้นปราสาทนานแล้ว *เห็นข่าวตอนเช้า 18 ส.ค. 64 จึงนึกขึ้นได้ ขอคืนสู่พนมรุ้ง"  ซึ่งคาดว่านักท่องเที่ยวรายดังกล่าวน่าจะมาท่องเที่ยวแล้วหยิบหินก้อนดังกล่าวไปจากบริเวณทางเดินหลัก ก่อนจะขึ้นตัวปราสาท  ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำหินก้อนดังกล่าวที่ นทท.ส่งพัสดุมาไปเก็บไว้ที่ใต้ต้นมะขาม บริเวณชานชลากากบาท ก่อนถึงทางดำเนินเสานางเลียง  ทางขึ้นตัวปราสาทเรียบร้อยแล้ว  ในจดหมายไม่ได้ระบุเนื้อหาว่าไปเจออะไรมาบ้างถึงได้ส่งก้อนหินมาคืน  เพียงระบุว่าเห็นในข่าวว่ามีคนส่งดินที่เอาไปจากพนมรุ้งกลับมาคืน 

โผล่อีก นทท.ส่งหินที่แอบหยิบจากพนมรุ้ง ส่งพัสดุฝากจนท.นำกลับคืนที่เดิม
               
นักโบราณคดี  ฝากถึงนักท่องเที่ยวที่เคยหยิบสิ่งใดติดไม้ติดมือไปช่วงที่มาเที่ยว  ไม่ว่าจะเอาไปเป็นของที่ระลึก หรือเอาไปบูชาตามความเชื่อ  หากต้องการจะส่งคืนเจ้าหน้าที่ก็ยินดี  พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ถึง นทท.ด้วยว่าไม่ว่าจะมาไปเที่ยวโบราณสถานแห่งใดก็ตาม  ไม่ควรจะหยิบฉวยอะไรไปด้วย  เพราะถือว่าเป็นสมบัติของคนไทยทุกคน   สำหรับปราสาทพนมรุ้งในรอบเดือนนี้ก็เป็นรายที่สองแล้วที่แล้วที่ นทท.ส่งดินและหินที่หยิบไปกลับมาคืน 

โผล่อีก นทท.ส่งหินที่แอบหยิบจากพนมรุ้ง ส่งพัสดุฝากจนท.นำกลับคืนที่เดิม โผล่อีก นทท.ส่งหินที่แอบหยิบจากพนมรุ้ง ส่งพัสดุฝากจนท.นำกลับคืนที่เดิม
       
อย่างไรก็ตามช่วงนี้ปราสาทพนมรุ้ง  และปราสาทเมืองต่ำยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมตามปกติแล้ว  ภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันเชื้อไวรัสโควิดอย่างเข้มงวด
                                                                                           
โดย - สุรชัย  พิรักษา 

logoline