20 สิงหาคม 2564 จากผลทดสอบวัคซีนโควิด ChulaCov 19 กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงเทียบเท่าวัคซีน mRNA ไฟเซอร์ ไบออนเทค ยับยั้งเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม เชื้อกลายพันธุ์ทั้ง 4 สายพันธุ์ ) จนสามารถเรียกได้ว่า ChulaCov-19 เป็นวัคซีน mRNA สัญชาติไทยรุ่นเแรก ตั้งเป้าเป็น 1 ใน 4 วัคซีนที่ได้รับการรับรองของคนไทย คาดเริ่มใช้ได้จริงภายในเดือน เม.ย. 65
ล่าสุด ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า
ความท้าทายสำหรับชาวไทยก็คือถ้าเราต้องการให้มีวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งในสี่ชนิดที่กำลังดำเนินการวิจัยและพัฒนาอยู่รวมทั้งของ ChulaCov19 mRNA vaccine ให้สามารถขึ้นทะเบียนได้ และใช้ได้กว้างขวางภายในก่อนปีใหม่ไทยปีหน้า ก็คือ เม.ย. 2565
ประเทศไทยต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน 4 ด้าน และต้องขับเคลื่อนอย่างจริงจัง คู่ขนานไป นั่นคือ
4. รัฐบาลต้องมีนโยบายการจัดซื้อวัคซีนล่วงหน้าเพื่อทำให้ผู้พัฒนาวัคซีนสามารถที่จะมีงบประมาณในการไปจองเลขสั่งซื้อวัตถุดิบในการผลิตซึ่งจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการอย่างน้อยหกเดือน หากประเทศไทยมุ่งมั่นจริงจังและดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพเราเชื่อว่าประเทศไทยภายในก่อนสงกรานต์ปีหน้าจะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งวัคซีนได้ใช้จริงสำหรับคนไทยโดยคนไทย
ติดตามความคืบหน้าวัคซีนไทย “ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ”