svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"จิรายุ"จี้นายกฯให้ความสำคัญหลังไทยถูก"เชฟรอน-โททาล"ฟ้องศาลโลก

21 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"จิรายุ ห่วงทรัพย์" จี้นายกฯ สอบกรณีก.พลังงาน ถูก 2 บริษัทเอกชนยักษ์มใหญ่จากสหรัฐ-ฝรั่งเศส ฟ้องรัฐบาล สมัย คสช. มีการเปลี่ยนกฎหมายรื้อแท่นขุดเจาะน้ำมัน หวั่นประเทศแพ้คดีสูญเงินจ้างทนายเปล่า

21 สิงหาคม 2564 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และรองประธานคณะอนุ กมธ.ฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างเหมาบริการ ค่าจ้างที่ปรึกษา ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ งบดำเนินงาน งบเงินอุดหนุน และงบรายจ่ายอื่น คนที่หนึ่ง แถลงว่า 1.เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีติดตามตรวจสอบกรณีที่กระทรวงพลังงาน ถูกบริษัทเชฟรอน ของสหรัฐอเมริกา และบริษัทโททาล ของฝรั่งเศส ฟ้องรัฐบาล ต่ออนุญาโตตุลาการ

 

ทั้งนี้ กรณีที่รัฐบาลทำสัญญาแท่นขุดเจาะน้ำมันเมื่อปี 2515 ระบุว่า เมื่อหมดสัญญาผู้ลงทุนต้องส่งมอบทรัพย์สินให้แผ่นดิน แต่ในปี 2559 รัฐบาล คสช. ได้แก้กฎหมาย โดยเขียนเพิ่มเติมว่า บริษัทที่ลงทุนแท่นขุดเจาะน้ำมัน เมื่อหมดอายุสัญญาต้องรื้อถอนเอง และต้องจ่ายค่ารื้อถอนให้รัฐบาล ซึ่งกฏหมายจะไม่มีผลย้อนหลัง ทำให้เป็นข้อที่ทั้ง 2 บริษัท ฟ้องรัฐบาล

 

"จิรายุ"จี้นายกฯให้ความสำคัญหลังไทยถูก"เชฟรอน-โททาล"ฟ้องศาลโลก

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า กระทรวงพลังงาน จึงมีการตั้งงบประมาณในปี 2565 ซึ่งเป็นเงินที่มาจากภาษีของประชาชน เพื่อจ้างทนายความต่างชาติสู้คดี โดยตั้งงบปีละประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งกว่าจะจบคดี น่าจะใช้งบประมาณมากกว่า 1,000  ล้านบาท และหากแพ้คดี ก็จะสูญเสียเงินงบประมาณแผ่นดินไปกว่า 100,000 ล้านบาท จึงขอให้นายกฯ ให้ความสำคัญต่อกรณีดังกล่าว เพื่อลดความสูญเสียของประเทศ

 

2.ขอเรียกร้องให้ฝ่ายรัฐบาลเข้าร่วมการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อให้การอภิปรายผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งพรรคฝ่ายค้านยินดีให้ความร่วมมือในการอภิปราย จนถึงวันที่ 23 ส.ค. 64  เพื่อให้เสร็จสิ้น เนื่องจากในวันที่ 24 – 25 ส.ค. 64 จะเป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
 

3.พรรคฝ่ายค้านได้เตรียมความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลที่จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 31 ส.ค. – 2 ก.ย. 64 ซึ่งจะมี ส.ส. พรรคฝ่ายค้านจำนวนมากอภิปราย โดยแบ่งการอภิปรายออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มโควิด-19 2.กลุ่มปล่อยปละละเลย และ 3.กลุ่มทุจริต ซึ่งจะมีการอภิปรายอย่างเข้มข้นพร้อมแสดงหลักฐานประกอบด้วย

logoline