การประท้วงต่อต้านกลุ่มตาลีบันขยายพื้นที่ไปตามเมืองต่าง ๆ ในอัฟกานิสถาน เมื่อวันพฤหัสบดี (19 ส.ค.) รวมถึงในกรุงคาบูล เมืองหลวงของประเทศ และมีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นทั้งภายในและรอบๆ สนามบินกรุงคาบูล ซึ่งช่วยเพิ่มความยุ่งเหยิงให้กับเมืองหลวงแห่งนี้เข้าไปอีก
มีการยิงปืนขึ้นฟ้าที่ทางเข้าหลายทางของสนามบิน ทำให้ฝูงชนกระจัดกระจายกันออกไปหลบภัย รวมถึงผู้หญิงที่อุ้มทารกไว้ด้วย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าคนที่ยิงเป็นตาลีบัน หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ช่วยทหารสหรัฐฯ ที่อยู่ภายในสนามบิน ขณะที่มีรายงานว่าทหารสหรัฐก็มีการยิงแก๊สน้ำตาใส่ประชาชนที่พยายามเข้ามาในสนามบิน
ในเหตุการณ์หนึ่งที่จับภาพได้บนโซเชียลมีเดีย เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งถูกยกขึ้นเหนือกำแพงสูงของสนามบิน และส่งให้ทหารสหรัฐฯ ซึ่งเรื่องนี้แสดงถึงความสิ้นหวังของผู้คนที่พยายามจะออกไปจากประเทศ
ตั้งแต่วันอาทิตย์ มีการอพยพผู้คนออกจากอัฟกานิสถานแล้วประมาณ 8 พันคน ขณะที่ผู้คนอีกจำนวนมาก พยายามฝ่าแนวบล็อคของกลุ่มตาลีบัน และทหารอเมริกัน เพื่อเข้าไปภายในสนามบิน ขณะที่ตาลีบันก็พยายามบอกให้คนเหล่านี้กลับไปบ้าน พวกเขาจะไม่ทำอันตรายใด ๆ หลังจากที่ยิงประชาชนที่ออกมาประท้วงตายไป 3 รายเมื่อวันก่อน
ส่วนการประท้วงต่อต้านตาลีบันนั้น จัดขึ้นในหลายเมือง อย่างในกรุงคาบูล ฝูงชนชายและหญิง พากันโบกธงชาติสีดำ แดง และเขียวในกรุงคาบูล ขณะที่พวกเขาเดินขบวนเนื่องในวันที่อัฟกานิสถานฉลองอิสรภาพจากการปกครองของอังกฤษในปี 2462 โดยในกลุ่มผู้ประท้วงก็รวมถึงบรรดาผู้ขับขี่รถสามล้อที่นำรถของพวกเขามาร่วมการประท้วงด้วย แม้การประท้วงจะดูเล็ก ๆ แต่เมื่อรวมเข้ากับกระแสของผู้คนที่แห่กันไปที่สนามบิน ก็แสดงถึงปัญหาที่หนักมากขึ้นที่กลุุ่มตาลีบันต้องเผชิญ
นอกจากนั้น ชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ก็ยังออกมาฉลองเทศกาลอาชูร่า เพื่อระลึกถึงความทุกข์ทรมานของฮุสเซน ซึ่งเป็นหนึ่งในหลานของท่านศาสดามะหะหมัดของศาสนาอิสลาม เท่ากับยิ่งเพิ่มจำนวนคนที่ออกมานอกถนนมากยิ่งขึ้น