แม่ของ "ไมล์ส รูทเลดจ์" นักศึกษามหาวิทยาลัยลัฟบะระ ชาวอังกฤษวัย 21 ปี บอกว่า ไม่รู้ว่าลูกชายทำตัวเป็น "นักท่องเที่ยวเสี่ยงตาย" ไปเที่ยวที่กรุงคาบูลของ อัฟกานิสถาน ทั้งที่รู้ว่าอันตราย แต่ก็โล่งอกที่ตอนนี้เขาปลอดภัย หลังขึ้นเครื่องบินอพยพไปลงที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีภาพของเขาสวมเสื้อกันกระสุน นั่งอยู่ที่พื้นเครื่องบินกับคนอื่นๆ อีกหลายร้อย ที่ได้รับการช่วยเหลือภายใต้ยุทธการ "PITTING" นำพลเมืองอังกฤษออกจากอัฟกานิสถาน
รูทเลดจ์ ซึ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานด้านการเงินได้เสิร์ชหา "สถานที่ที่อันตรายที่สุดในโลก" จากกูเกิล และปรากฎชื่อว่า "อัฟกานิสถาน" เป็นอันดับ 1 เขาขึ้นเครื่องบินเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม และใช้ "FormoChan" กับไลฟ์สตรีมทาง "Twitch" เป็นช่องทางเผยแพร่ภาพตัวเองตามที่ต่างๆ เช่น ตั๋วเครื่องบิน ด่านตรวจและตลาด เพื่อยืนยันว่าไปจริง ก่อนถูกกระแสตีกลับจากชาวเน็ตว่ามีพฤติกรรม "หิวแสงขั้นรุนแรง" ด้วยข้อความโจมตี เช่น "รูทเลดจ์เป็นตัวอย่างของคนที่มีเงินมากกว่าจิตสำนึก" และ "เป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว ที่นั่งของเขาบนเครื่องบินควรเป็นของล่ามชาวอัฟกัน ที่ตอนนี้ต้องเผชิญกับความตาย"
รูทเลดจ์ อ้างว่าเขาอยู่ในความคุ้มครองของสหประชาชาติตอนที่ ตาลีบัน บุกเข้า คาบูล แต่โฆษกสหประชาชาติไม่ได้ยืนยัน ต่อมาเขาให้สัมภาษณ์ BBC ว่าเหนื่อยแต่โล่งใจที่หนีออกจาก คาบูล ได้ แต่เขายังมีอีกบทเรียนที่ต้องเจอ คือการจัดการเดินทางกลับบ้านด้วยตัวเองโดยเที่ยวบินพาณิชย์ และต้องเสียค่าใช้จ่ายวันละ 2,285 ปอนด์ หรือราวแสนกว่าบาท ตลอด 10 วัน ที่ต้องกักตัวอยู่ที่โรงแรมในดูไบ เพราะ อัฟกานิสถาน ก็เป็นประเทศที่อยู่ในรายชื่อสีแดงของระบบกลุ่มสี (แดง/เหลือง/เขียว) ตามสถานการณ์โควิด-19 ของอังกฤษ (UK's Covid traffic lights system)