วันนี้ (18 ส.ค.64) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ได้กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งคำร้องไปศาลฎีกา กล่าวหา น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กระทำผิดมาตรฐานจริยธรรมฯอย่างร้ายแรง จากการเสียบบัตรแทนกัน
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุมว่า ศาลฎีกาได้รับคำร้องไว้พิจารณาและไม่ได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น เป็นผลให้ น.ส.ธณิกานต์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จนกว่าจะมีคำพิพากษา
ทั้งนี้คดีดังกล่าว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาทั้งหมด 8 ราย มีมติชี้มูลความผิด ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล 4 ราย แบ่งเป็น พรรคภูมิใจไทย 3 ราย ประกอบด้วย นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ นายภูมิศิษฏ์ คงมี นางนาที รัชกิจประการ (ปัจจุบันไม่ได้เป็น ส.ส.) และพรรคพลังประชารัฐ 1 ราย นางธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ กรณีถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท
โดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลทั้ง 4 ราย ถูกชี้มูลในความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ที่ระบุว่า เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงชี้มูลผิดมาตรฐานจริยธรรมฯอย่างร้ายแรง ซึ่งต้องส่งสำนวนให้ศาลฎีกาพิจารณาด้วย
ส่วน ส.ส. อีก 2 ราย คือ น.ส.ภริม พูลเจริญ และนายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ซึ่งทั้งคู่เป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า กระทำผิดเฉพาะข้อบังคับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงส่งเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการ มิได้ชี้มูลความผิดทางอาญา
ขณะที่ นายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และนายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.พรรคพลังท้องถิ่นไท คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ