17 สิงหาคม พลอากาศโท นพ.การุณ เก่งสกุล ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรณีแนวโน้มหญิงตั้งครรภ์ ติดเชื้อโควิด-19 ว่า จากตัวเลข นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 -12 ส.ค. 2564 พบว่า หญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น ตั้งแต่ช่วงหลังสงกราน์ 2564 ตัวเลขพุ่งสูงขึ้นมาก โดยพบว่า แม่ที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1,993 คน คลอดแล้ว 1,129 คิดเป็น 55% กว่าครึ่งเป็นการผ่าคลอด และคนกลุ่มนี้ได้รับวัคซีนเพียง 10 ราย แต่ที่น่าเป็นห่วง คือพบว่า มีแม่เสียชีวิตถึง 37 คน คิดเป็น 1.85% ถ้าเทียบกับคนทั่วไป อัตราการเสียชีวิต อยู่ที่ 0.83% แสดงว่าแม่ที่เป็นโควิด-19 จะเสียชีวิตมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่าครึ่ง และซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก และมีบางคนที่เสียชีวิตพร้อมลูก ขณะเดียวกัน พบทารกติดเชื้อจากแม่ 113 คน (11.8%) สูงกว่าต่างประเทศมาก ส่วนหนึ่งเพราะเทียบกับข้อมูลจากประเทศที่ฉีดวัคซีนจำนวนมากแล้ว เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
ส่วนปัจจัยเสี่ยง ที่ทำให้หญิงตั้งครรภ์ มีอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้น พลอากาศโท นพ.การุณ เก่งสกุล กล่าวว่า ปกติแล้ว น้ำคร่ำที่อยู่ในมดลูกเป็นจำนวนมาก ช่วง 8 เดือนขึ้นไป และในช่วงนี้ จะเกิดภาวะปอดแฟบตามธรรมชาติของคนท้องได้ง่ายกว่าคนปกติ เพราะฉะนั้นจะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ง่าย หากเกิดการติดเชื้อโควิด-19
ส่วนกรณีหญิงตั้งครรภ์ ฉีดวัคซีนโควิด-19แล้วลูกเสียชีวิตในท้องนั้น ธรรมชาติของการตั้งครรภ์ สามารถพบทารกเสียชีวิตในท้องได้ประมาณ 1% มีหลายสาเหตุ ทั้งการติดเชื้อ หลอดเลือด สายสะดือ รก ความดันโลหิตสูง จะระบุว่ามาจากการฉีดวัคซีนคงไม่สามารถจะสรุปได้