ทหารผ่านศึกอัฟกานิสถานเผย ฝึกทหารอัฟกันไปก็เท่านั้น รัฐบาลไม่เคยสนใจ

ทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ที่เคยไปประจำการในอัฟกานิสถานถึง 4 ครั้ง บอกว่ารู้สึกประหลาดใจที่กลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองประเทศได้รวดเร็วในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ก่อนที่สหรัฐฯ จะเสร็จสิ้นการถอนกำลังทหารออกมา หลังจากสงครามสองทศวรรษที่มีค่าใช้จ่ายสูง

เดวิด สมิธ นายทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองทัพสหรัฐฯ ที่รู้จักกันดีในชื่อ " กรีน เบเร่ต์ "  ที่เกษียณราชการแล้ว เคยไปประจำการในอัฟกานิสถานปี 2550, 2551, 2552 และ 2555

เขายอมรับว่าสงครามในอัฟกานิสถานเป็นการลงทุนที่ยาวนานและมีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับอเมริกา ทั้งในด้านเลือดเนื้อและทรัพย์สมบัติ แต่ก็เชื่อว่าผลลัพธ์เชิงบวกประการหนึ่งก็คือ สหรัฐฯ ทำให้การสู้รบยังอยู่ในต่างประเทศ และอยู่ห่างจากชายฝั่งอเมริกา

หากกลุ่มตาลีบันยังคงอยู่ในอำนาจ สมิทกลัวว่าอัฟกานิสถานจะกลายเป็นที่พักพิงสำหรับองค์กรก่อการร้ายอีกครั้ง

“กลุ่มตาลีบันยึดครองประเทศได้แล้ว พวกเขาจะจัดตั้งรัฐบาลของตนเอง ผมแน่ใจว่าพวกเขาจะเชิญกลุ่มอัลไกด้าต่าง ๆ กลับเข้าไปในอัฟกานิสถานเพื่อฝึกฝน และนั่นจะนำไปสู่... การโจมตีในต่างประเทศ และในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ดังนั้น นั่นทำให้เกิดคำถามว่า เราจะทำอย่างไรต่อไป เพราะหากพวกเขาทำอย่างนั้น ผมรู้สึกว่ามันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นที่เราจะกลับไปทำแบบเดิมอีก แม้จะหวังว่า เราจะมีเป้าหมายที่จำกัดมากกว่านี้"

 

ด้วยการสร้างและฝึกด้วยงบประมาณมากมายถึง 8 หมื่น 3 พันล้านดอลลาร์ตลอดช่วง 2 ทศวรรษ กองกำลังความมั่นคงอัฟกันล้มสลายลงอย่างรวดเร็วและโดยสิ้นเชิง และในบางกรณีก็ไม่ได้มีการยิงเลย ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนของสหรัฐกลับกลายเป็นกลุ่มตาลีบัน พวกเขาไม่เพียงแต่คว้าอำนาจทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอำนาจการยิงที่สหรัฐฯ จัดหาให้ด้วย เช่น ปืน กระสุน เฮลิคอปเตอร์ และอื่น ๆ

ในช่วงเวลาที่อยู่ในอัฟกานิสถาน สมิทได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือในการฝึกและสร้างกองทัพอัฟกานิสถาน เขาเชื่อว่าทหารอัฟกันจำนวนมากขาดสิ่งจูงใจ ซึ่งก็รวมถึงการจ่ายเงินเพื่อต่อสู้เพื่อรัฐบาลพลเรือนที่ล่มสลาย

“ในส่วนที่เกี่ยวกับกองทัพที่เราฝึกนั้น มีบางหน่วยที่มีความสามารถมาก แต่ไม่มีรัฐบาลกลางคอยสนับสนุน ไม่มีเงิน ไม่มีศักยภาพทางด้านข่าวกรอง และการสนับสนุนทางอากาศอย่างใกล้ชิดแบบที่เราสามารถทำได้ในฐานะที่เป็นสหรัฐ ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะปฏิบัติภารกิจเหล่านั้น หรือคาดหวังให้คนเหล่านั้นทำภารกิจประเภทเดียวกัน โดยไม่ได้รับการสนับสนุน" 

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาได้รับการอพยพและธงชาติอเมริกันถูกลดระดับลง โดยมีนักการทูตย้ายไปทำงานที่สนามบินเพื่อช่วยเหลือในการอพยพ ประเทศตะวันตกอื่น ๆ ได้ปิดสถานทูตของพวกเขาเช่นกันและกำลังพาเจ้าหน้าที่และคนชาติเดียวกันกลับออกมา

ชาวอัฟกันหลายพันคนรีบไปที่สนามบินนานาชาติคาบูลเมื่อวันจันทร์ และบางคนหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะหลบหนีการยึดครองประเทศของตาลีบัน ถึงกับเกาะเครื่องบินไอพ่นทหารของสหรัฐฯ ขณะบินขึ้น และพวกเขาก็ตกลงไปสู่ความตายท่ามกลางความโกลาหลที่คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 7 คน 

สมิธสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับล่ามชาวอัฟกัน และเชื่อว่าสหรัฐควรทำมากกว่านี้เพื่อให้แน่ใจว่าครอบครัวที่ได้รับวีซ่าผู้อพยพพิเศษมีโอกาสได้เดินทางออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความกลัวว่ากลุ่มตาลีบันจะล้างแค้นผู้ที่ทำงานกับชาวอเมริกันหรือ รัฐบาล.

“เราต้องสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าออกที่นั่น สงครามไม่มีที่สิ้นสุด ภัยคุกคามต่อครอบครัวของพวกเขาไม่มีวันสิ้นสุด ดังนั้น ผมจึงอยากเห็นความพยายามร่วมกันมากขึ้นของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการนำผู้ถือวีซ่าเหล่านั้น ให้ออกมาพร้อมกับครอบครัวของพวกเขา และไม่ทำกับพวกเขาเหมือนที่ทำกับพวกม้ง ที่ต่อสู้เคียงข้างหน่วยปฏิบัติการพิเศษของอเมริกาในเวียดนาม และเอกชนต้องเป็นคนนำออกมา"