11 สิงหาคม 2564 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ที่มียอดผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ประกอบกับอยู่ในช่วงฤดูฝนที่เป็นฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ และมีวัคซีนป้องกัน โดยฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการรณรงค์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จึงขอเชิญชวนให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ทีสถานบริการสาธารณสุขของรัฐใกล้บ้าน และที่สถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และขอให้ติดตามข่าวสารเรื่องระยะเวลาในการฉีดวัคซีนต่อไป
โดยอธิบดีกรมควบคุมโรคยังกล่าวอีกว่า ..
"การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จะมีผลดี คือ หากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดความรุนแรงจากการป่วย และลดการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนจากโรคนี้ได้ และในช่วงสถานการณ์โควิด 19 มีการศึกษาในสหรัฐอเมริกา และจีนพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด 19 มากกว่าร้อยละ 60 จะมีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอร่วมด้วย โดยหากผู้ป่วยติดเชื้อ 2 โรคนี้พร้อมกันจะเพิ่มความรุนแรง และมีโอกาสเสียชีวิตสูงขึ้น การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จึงเป็นการลดอาการแทรกซ้อนและความรุนแรงหากติดเชื้อโควิด 19"
นายแพทย์โอภาสกล่าวต่อไปว่า ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ยกเว้น เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปีควรฉีดวัคซีนป้องกันทั้งไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนโควิด โดยเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด และต้องไม่ลืมป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หมั่นล้างมือฟอกสบู่เป็นประจำ หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น งดการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทุกชนิด ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลสุขภาพได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422