เตือน"ภาวะโลกร้อน"เข้าสู่ช่วงเวลาอันตราย 

คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ(IPCC) เผยแพร่รายงานที่รวบรวมผลการศึกษาจากเอกสารกว่า 14,000 ฉบับ กลายเป็นข้อพิสูจน์ชิ้นสำคัญว่าภาวะโลกร้อนเปลี่ยนโลกเราไปแค่ไหน และจะส่งผลกระทบเช่นไรต่ออนาคต

การตรวจสอบครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2013 และช่วงเวลานับจากนั้นผู้คนก็ได้เห็นอย่างชัดเจน จากความเปลี่ยนแปลงและภัยพิบัติที่เกิดขึ้น อุณหภูมิโลกพุ่งสูงขึ้นทุกวัน งานวิจัยยังพบว่าผลกระทบที่เกิดต่อสภาพอากาศอาจต้องใช้เวลาแก้ไขนับจากนี้ไปอีกเป็นร้อยเป็นพันปี

ในช่วงปี 2013 ตอนริเริ่มงานวิจัยนี้ในช่วงแรก พวกเขาได้รับเสียงทัดทานจากหลายฝ่าย บางส่วนปฏิเสธความเกี่ยวข้องเรื่องการเชื่อมโยงกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปรวมถึงเรื่องน้ำทะเลหนุนสูง แต่หลังเกิดภัยพิบัติขึ้นทุกหย่อมหญ้า ไม่มีใครสามารถปฏิเสธความเกี่ยวข้องนี้ได้อีกแล้ว

งานวิจัยกล่าวว่า จากนี้โลกมีแต่จะยิ่งร้อนขึ้น หลายพื้นที่ฝนจะตกหนักเมื่อเข้าหน้าฝน กลับยิ่งทวีความแห้งแล้งเมื่อเข้าฤดูแล้ง ระดับน้ำทะเลพุ่งสูงไปตามกันและไม่ลดลงโดยง่าย นั่นไม่ใช่สิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ในเร็ววัน แม้เราจะเริ่มปรับพฤติกรรมแก้ไขทุกอย่างเสียใหม่นับจากวันนี้ เพราะความร้อนสะสมภายใต้ผืนสมุทรจะไม่หายไปโดยง่าย

แน่นอนตัวการสำคัญสาเหตุแห่งความเปลี่ยนแปลง ถูกระบุว่าคือมนุษย์เรา นับเป็นตัวแปรที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างมาก จากกิจวัตรในแต่ละวันมันส่งผลกระทบต่อมหาสมุทร ชั้นบรรยากาศ และวงจรของโลกเกินกว่าที่ใครจะคิด

แม้สถานการณ์ดูน่าสิ้นหวังแต่ยังมีทางแก้ไข งานวิจัยระบุว่าถ้าสามารถรักษาอุณหภูมิไม่ให้สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสได้ก็พอมีหวัง นี่คือเส้นกั้นสำคัญที่ไม่ควรจะข้ามไป และถึงมีข้อตกลงปารีสในปี 2015 มารับรอง หลายประเทศก็ยังตระหนักหรือเข้าใจความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มากพอ 

เพราะเมื่อใดก็ตามที่อุณหภูมิโลกสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อนั้นความรุนแรงของภัยพิบัติจะถูกยกระดับไปอีกขั้น สภาพอากาศของโลกจะน่ากลัวและโหดร้าย เช่น คลื่นความร้อนในสหรัฐฯและแคนาดา หรือไฟป่าครั้งมโหฬารแถบยุโรปใต้ ที่แสดงออกมาให้เห็นว่านี่เป็นปัญหาร้ายแรงเพียงไร

การค้นพบและรายงานของ IPCC ในครั้งนี้จะถูกนำไปใช้ในการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติหรือ COP26 ในเดือนพฤศจิกายน ที่ประเทศอังกฤษ ในเดือนพฤศจิกายน 

คาดการณ์ว่าภายในการประชุมครั้งนี้ หัวข้อที่จะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงคือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำเป็นต้องควบคุมและลดลงเร่งด่วน กำหนดปัญหาเกี่ยวกับระดับน้ำทะเลหนุนสูง ประเด็นด้านพลังงานเชื้อเพลิงกับพลังงานสะอาดน่าจะเป็นข้อถกเถียงสำคัญ รวมถึงการช่วยเหลือลดผลกระทบต่อนานาประเทศที่จะเกิดในอนาคตนับจากนี้