พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผย ตำรวจมีการจัดเตรียมกำลังไว้ 38 กองร้อย หรือประมาณ 5,700 นาย เพื่อรับมือการชุมนุมวันที่ 7 ส.ค. นี้ พร้อมเตรียมกำลังสนับสนุนให้เพียงพอรองรับสถานการณ์ โดยจะมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด 14 จุด รอบพื้นที่ชุมนุม เพื่อป้องกันเหตุร้ายและมือที่สาม ซึ่งแนวรั้งหน่วงสุดท้ายจะอยู่บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ และแยกพาณิชยการ
"ยอมรับว่า อาจจะมีการเผชิญหน้าและกระทบกระทั่งกัน เนื่องจากพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มเดิม ๆ ที่มักใช้วิธีการรุนแรง หรือใช้สิ่งอาวุธในการชุมนุมบ่อยครั้ง หากพบมีความพยายามบุกรุก เผาทรัพย์ หรือใช้ระเบิดเพลิง ตำรวจก็ต้องใช้มาตรการป้องกัน ไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย โดยใช้ยุทธวิธีตามหลักสากล ส่วนแกนนำที่มีคดีหรือหมายจับ ย้ำว่า หากพบเมื่อไหร่ ก็จะมีการจับกุมดำเนินคดีทันที"
ตร.เปิดรายชื่อม็อบที่ร่วมชุมนุม 7 ส.ค.
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. คาดว่า จะมีเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม 13 เส้นทาง และ 1 สะพาน โดยรอบอนุสารีย์ประชาธิปไตย สนามหลวง และทำเนียบรัฐบาล จึงแนะนำให้ประชาชนทั่วไป หลีกเลี่ยงเส้นทาง เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร
"ทั้งนี้จากข้อมูลล่าสุด พบมีการนัดหมายชุมนุม 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่นัดหมายบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เคลื่อนไปพระบรมมหาราชวัง, กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นัดจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ เคลื่อนไปทำเนียบรัฐบาล และ กลุ่มแดงก้าวหน้า 63 ที่มีการรวมตัวในจังหวัดต่าง ๆ ก่อนเคลื่อนตัวมาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย"
จึงย้ำเตือนว่า ขณะนี้ กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การรวมตัวมั่วสุม ไม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย โดยจะเข้าข่ายความผิดหลายข้อหา ทั้งการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ