จากกรณีที่รัฐบาลฝรั่งเศส ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ตัดสินใจยกระดับกฎระเบียบต่างๆเพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 ให้เข้มข้นขึ้น และนับตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.เป็นต้นไป ชาวฝรั่งเศสจำเป็นต้องแสดงบัตรผ่านสุขภาพพิเศษ หรือที่เรียกว่า "กรีนพาส" เพื่อเข้าไปใช้บริการคาเฟ่ หรือแม้แต่ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะบางประเภท เพื่อเป็นหลักฐานรับรองว่าบุคคลนั้นๆ ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว หายป่วยจากโควิด-19 แล้ว หรือมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบเมื่อไม่นานมานี้
จากการประกาศกฏระเบียบใหม่ดังกล่าว ทำให้ประชาชนชาวฝรั่งเศสหลายหมื่นคนชุมนุมประท้วงเพื่อแสดงท่าทีคัดค้าน ด้วยมองว่าบัตรผ่านสุขภาพโควิด-19 กำลังจะสร้างสังคมที่แบ่งแยก และละเมิดสิทธิเสรีภาพ โดยได้ประท้วงกันมาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ล่าสุด การประท้วงได้ยกระดับความรุนแรงขึ้น เมื่อมีการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลางกรุงปารีส โดยมีรายงานว่า จนท.มีการยิงแก๊สน้ำตาและใช้สเปรย์พริกไทยเข้าสลายฝูงชน ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ประท้วงก็มีการใช้กำลังกับตำรวจด้วย จนทำให้มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย ขณะที่ผู้ประท้วงจำนวนมากถูกตำรวจจับใส่กุญแจมือและบังคับให้นอนราบกับพื้น
ทั้งนี้นอกจากจุดชุมนุมในเมืองหลวงแล้ว ยังมีการชุมนุมแบบเดียวกันในอีกกว่า 150 เมืองทั่วฝรั่งเศส ส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบ