สัปเหร่อวัดโคราชโอด! เผาศพเหยื่อโควิดรายวัน แต่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

31 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดคลองส่งน้ำ บ้านพบสุข หมู่ 5 ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นหนึ่งในจำนวนวัดเพียงไม่กี่แห่ง ในเขต อ.เมืองนครราชสีมา ที่รับประกอบพิธีฌาปนกิจศพผู้ป่วยโควิด-19 ของ จ.นครราชสีมา โดยหากมีผู้ป่วยโควิด19 ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เสียชีวิตลง ทาง รพ.จะรีบประสานชุดกู้ภัยเฉพาะกิจของมูลนิธิฮุก 31 นครราชสีมา ให้รีบเคลื่อนย้ายและนำส่งร่างผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิต ไปประกอบพิธีประชุมเพลิงที่วัดโดยเร็ว

โดย นายมานพ ดงคำสี อายุ 41 ปี ชาว อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ที่มาทำหน้าที่มัคทายกวัดและผู้ช่วยสัปเหร่อของวัดคลองส่งน้ำ เปิดเผยว่า ทางวัดจะนิมนต์มีพระภิกษุสงฆ์มาประกอบพิธีฌาปนกิจสวดหน้าไฟให้ผู้เสียชีวิต ท่ามกลางบรรดาญาติใกล้ชิดเพียงไม่กี่รายมาร่วมประกอบพิธี ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะมาให้คำแนะนำ ควบคุมการประกอบพิธีทางศาสนา ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของคณะกรรมการโรคติดต่ออย่างเคร่งครัด ซึ่งทุกขั้นตอนตั้งแต่นำร่างผู้เสียชีวิตมาที่วัด ทางอาสากู้ภัยฯ จะทำการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคบริเวณเมรุและบริเวณโดยรอบฌาปนสถาน จนนำโลงเข้าสู่เตาเผา และจุดไฟ

โดยให้พระสงฆ์ ญาติโยม รวมทั้งสัปเหร่อ รออยู่ด้านล่างฌาปนสถาน จนเมื่อเผาศพไปได้กว่า 2-3 ชั่วโมง สัปเหร่อจึงจะรับช่วงต่อในการตรวจเช็คว่า เผาร่างไหม้จนหมดหรือยัง ดำเนินการไปจนจบทุกขั้นตอน แล้วจึงเก็บเถ้ากระดูกส่งต่อให้ญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งอาชีพสัปเหร่อก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อได้เช่นกัน แต่ต้องยอมรับว่าตั้งแต่ทางวัดเริ่มรับฌาปนกิจศพผู้ป่วยโควิด 19 มามากกว่า 10 แล้วนั้น ทั้งพระ เณร มัคทายก สัปเหร่อ หรือบุคลากรภายในวัดคลองส่งน้ำ ขณะนี้ยังไม่มีใครได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด19 เลยสักราย ทั้งๆที่แจ้งรายชื่อจองฉีดวัคซีนไปเกือบ 3 เดือนแล้ว แต่ได้รับคำตอบมาว่า วัคซีนยังไม่มาหรือยังมีวัคซีนไม่เพียงพอ ต้องขอเลื่อนออกไปก่อน ซึ่งทุกคนในวัดก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ฉีดวัคซีนกันเมื่อไร

จึงอยากวิงวอนไปถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้โปรดเห็นใจและให้ความสำคัญ เล็งเห็นปัจจัยความเสี่ยงที่ทางวัดต้องเผชิญ เร่งจัดหาวัคซีนต้านโควิด19 มาฉีดให้กับพระ เณร และบุคลากรของวัดที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือสังคม ฌาปนกิจเหยื่อโควิด19 ที่เสียชีวิตรายวันโดยเร็วด้วย